|
|
|
ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Basic Sentences and Essential Vocabulary in Daily Life) |
ศึกษาลักษณะของประโยคพื้นฐาน ศัพท์ และสำนวนที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยเน้นการสื่อความหมายด้านไวยการณ์ด้วยรูปประโยค ลักษณะองค์ประกอบของประโยคและการรักษาความสืบเนื่องของข้อความโดยการใช้เครื่องหมายวรรคตอนและคำเชื่อมต่าง ๆ ทั้งนี้โดยศึกษาจากอนุเฉทประเภทต่า งๆ |
|
|
|
|
ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Basic Sentences and Essential Vocabulary in Daily Life) |
ศึกษาลักษณะของประโยคพื้นฐาน ศัพท์ และสำนวนที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยเน้นการสื่อความหมายด้านไวยการณ์ด้วยรูปประโยค ลักษณะองค์ประกอบของประโยคและการรักษาความสืบเนื่องของข้อความโดยการใช้เครื่องหมายวรรคตอนและคำเชื่อมต่าง ๆ ทั้งนี้โดยศึกษาจากอนุเฉทประเภทต่า งๆ |
|
|
|
|
ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Basic Sentences and Essential Vocabulary in Daily Life) |
ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน |
|
|
|
|
ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Basic Sentences and Essential Vocabulary in Daily Life) |
ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน |
|
|
|
|
|
|
|
(Sentences and vocabulary in general use) |
ศึกษา ไวยากรณ์ ประโยคและคำศัพท์ ไปด้วยกัน |
|
|
|
|
|
|
|
(Sentences and vocabulary in general use) |
ศึกษา ไวยากรณ์ ประโยคและคำศัพท์ ไปด้วยกัน |
|
|
|
|
ประโยคและศัพท์ทั่วไป |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Vocabulary in General Use) |
ศึกษาลักษณะของประโยคและศัพท์ที่ใช้อยู่ทั่วไป โดยเน้นการสื่อความหมายด้านไวยากรณ์ด้วยรูปประโยค ลักษณะองค์ประกอบของประโยคและการรักษาความสืบเนื่องของข้อความโดยใช้เครื่องหมายวรรคตอนและคำเชื่อมต่าง ๆ |
|
|
|
|
ประโยคและศัพท์ทั่วไป |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Vocabulary in General Use) |
ศึกษาลักษณะของประโยคและศัพท์ที่ใช้อยู่ทั่วไป โดยเน้นการสื่อความหมายด้านไวยากรณ์ด้วยรูปประโยค ลักษณะองค์ประกอบของประโยคและการรักษาความสืบเนื่องของข้อความโดยใช้เครื่องหมายวรรคตอนและคำเชื่อมต่าง ๆ |
|
|
|
|
|
|
|
(Reading for Comprehension) |
ศึกษาวิธีและฝึกอ่านข้อความสั้นๆ ให้เข้าใจถูกต้อง โดนเน้นเรื่องความสามารถในการกำหนดได้ด้วยหลักเกณฑ์ว่า คำวลี ประโยค และข้อความต่าง ๆ สื่อความหมายในส่วนใดบ้าง สื่อความหมายอย่างไร และสื่อความหมายว่าอย่างใด ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงเรื่องการใช้อุปสรรคและปัจจัย การใช้เครื่องสังเกตในปริบท(contextual clues) ตลอดจนวิธีใช้พจนานุกรมและวิธีเลือกความหมายของศัพท์ตามพจนานุกรมมาใช้โดยถูกต้องกับความหมายของประโยคและข้อความ |
|
|
|
|
|
|
|
(Reading for Comprehension) |
ศึกษาวิธีและฝึกอ่านข้อความสั้นๆ ให้เข้าใจถูกต้อง โดนเน้นเรื่องความสามารถในการกำหนดได้ด้วยหลักเกณฑ์ว่า คำวลี ประโยค และข้อความต่าง ๆ สื่อความหมายในส่วนใดบ้าง สื่อความหมายอย่างไร และสื่อความหมายว่าอย่างใด ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงเรื่องการใช้อุปสรรคและปัจจัย การใช้เครื่องสังเกตในปริบท(contextual clues) ตลอดจนวิธีใช้พจนานุกรมและวิธีเลือกความหมายของศัพท์ตามพจนานุกรมมาใช้โดยถูกต้องกับความหมายของประโยคและข้อความ |
|
|
|
|
|
|
|
(Interpretative Reading) |
ศึกษาวิธีและฝึกจับประเด็นสำคัญ เก็บรายละเอียดที่สำคัญและจับเจตนาของข้อความต่าง ๆที่อ่าน และศึกษาวิธีแลฝึกอ่านอย่างเร็วด้วยความเข้าใจ เพื่อค้นหาสำรวจหรือทบทวนข้อมูลต่าง ๆ |
|
|
|
|
|
|
|
(Interpretative Reading) |
ศึกษาวิธีและฝึกจับประเด็นสำคัญ เก็บรายละเอียดที่สำคัญและจับเจตนาของข้อความต่าง ๆที่อ่าน และศึกษาวิธีแลฝึกอ่านอย่างเร็วด้วยความเข้าใจ เพื่อค้นหาสำรวจหรือทบทวนข้อมูลต่าง ๆ |
|
|
|
|
การออกเสียงภาษาอังกฤษ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English Pronunciation ) |
- |
|
|
|
|
การออกเสียงภาษาอังกฤษ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English Pronunciation ) |
- |
|
|
|
|
|
|
|
(ENGLISH PRONUNCIATION) |
การออกเสียง |
|
|
|
|
|
|
|
(ENGLISH PRONUNCIATION) |
การออกเสียง |
|
|
|
|
การสนทนาในลักษณะที่กำหนดให้ |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Controlled Conversation) |
- |
|
|
|
|
การสนทนาในลักษณะที่กำหนดให้ |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Controlled Conversation) |
- |
|
|
|
|
การสนทนาในลักษณะที่กำหนดให้ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(controlled Conversation) |
since the manuscript of the first edition of this book was completed in1997,it |
|
|
|
|
การสนทนาในลักษณะที่กำหนดให้ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(controlled Conversation) |
since the manuscript of the first edition of this book was completed in1997,it |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่าง ๆ และอนุเฉทสั้น ๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
ศึกษาความมุ่งหมายและความหมายขององคืประกอบในกระบวนการสนทนาปและฝึกสนทนาในเรื่องต่างๆที่ผู้ใช้ภาษาอังกฤษมักจะสนทนากัน โดยเรียนรู้วัฒนธรรมที่เป้นพื้นฐานและธรรมเนียมปฎิบัติที่ควบคู่กับเรื่องสนทนาตลอดจนท่าทางท่ใช้ประกอบกับถ้อยคำและประโยคตามแบบเจ้สของภาาา วข้อสนทนาและประโยคต่างๆที่ใช้สนทนาเป้นไปตามที่กำหนดไว้ในบทเรียน |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่าง ๆ และอนุเฉทสั้น ๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
ศึกษาความมุ่งหมายและความหมายขององคืประกอบในกระบวนการสนทนาปและฝึกสนทนาในเรื่องต่างๆที่ผู้ใช้ภาษาอังกฤษมักจะสนทนากัน โดยเรียนรู้วัฒนธรรมที่เป้นพื้นฐานและธรรมเนียมปฎิบัติที่ควบคู่กับเรื่องสนทนาตลอดจนท่าทางท่ใช้ประกอบกับถ้อยคำและประโยคตามแบบเจ้สของภาาา วข้อสนทนาและประโยคต่างๆที่ใช้สนทนาเป้นไปตามที่กำหนดไว้ในบทเรียน |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่างๆ และอนุเฉท |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
- |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่างๆ และอนุเฉท |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
- |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่าง ๆและอนุเฉทสั้น ๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
ศึกษา ลีลาการเขียนประโยคที่ซับซ้อนและหลากหลาย รวมวิธีการเขียนอนุเฉทโดยสังเขป |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่าง ๆและอนุเฉทสั้น ๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
ศึกษา ลีลาการเขียนประโยคที่ซับซ้อนและหลากหลาย รวมวิธีการเขียนอนุเฉทโดยสังเขป |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่าง ๆและอนุเฉทสั้น ๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
การเขียนประโยคต่าง ๆและอนุเฉทสั้น ๆ |
|
|
|
|
การเขียนประโยคต่าง ๆและอนุเฉทสั้น ๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Sentences and Short Paragraphs) |
การเขียนประโยคต่าง ๆและอนุเฉทสั้น ๆ |
|
|
|
|
การเขียนอนุเฉกชนิดต่างๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(PARAGRAPH WRITING OF DIFFERENT FORMS ) |
- |
|
|
|
|
การเขียนอนุเฉกชนิดต่างๆ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(PARAGRAPH WRITING OF DIFFERENT FORMS ) |
- |
|
|
|
|
ความรู้เบื้องต้นในเรื่องวรรณคดีอังกฤษและวรรณคดีอเมริกัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(introduction to english and american literatures) |
ความรู้เบื้องต้นในเรื่องวรรณคดีอังกฤษและวรรณคดีอเมริกัน |
|
|
|
|
ความรู้เบื้องต้นในเรื่องวรรณคดีอังกฤษและวรรณคดีอเมริกัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(introduction to english and american literatures) |
ความรู้เบื้องต้นในเรื่องวรรณคดีอังกฤษและวรรณคดีอเมริกัน |
|
|
|
|
คู่มือวรรณคดีอเมริกัน 1 |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Survey of American Literature 1) |
- |
|
|
|
|
คู่มือวรรณคดีอเมริกัน 1 |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Survey of American Literature 1) |
- |
|
|
|
|
เรื่องสั้นประเภทเน้นการดำเนินเรื่อง |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(The Short Story of Plot) |
ศึกษาเรื่องสั้นประเภทดำเนินเรื่องโดยนักเขีนอังกฤษและนักเขียนอเมริกันโดยเน้นเรื่องจุดยืนในการเสนอเรื่องราว วิธีเปิดฉาก วิธีดึงผู้อ่านเข้าสู่ปัญหาของเรื่องการใช้ฉากและสัญลักษณ์ประกอบ การลำดับภาพเพื่อนำไปสู่เหตุการณ์อันเป็นจุดสนใจสุดยอดของเรื่อง และวิธีจบในลักษณะหักมุมในทิศทางที่คาดไม่ถึง |
|
|
|
|
เรื่องสั้นประเภทเน้นการดำเนินเรื่อง |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(The Short Story of Plot) |
ศึกษาเรื่องสั้นประเภทดำเนินเรื่องโดยนักเขีนอังกฤษและนักเขียนอเมริกันโดยเน้นเรื่องจุดยืนในการเสนอเรื่องราว วิธีเปิดฉาก วิธีดึงผู้อ่านเข้าสู่ปัญหาของเรื่องการใช้ฉากและสัญลักษณ์ประกอบ การลำดับภาพเพื่อนำไปสู่เหตุการณ์อันเป็นจุดสนใจสุดยอดของเรื่อง และวิธีจบในลักษณะหักมุมในทิศทางที่คาดไม่ถึง |
|
|
|
|
ความรู้พื้นฐานในเรื่องการละครอังกฤษและละครอเมริกัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Introduction to English and Amercan Drama) |
ศึกษาลักษณะและวิวัฒนาการของการละครอังกฤษและละครอเมริกัน โดยเน้นเรื่องปฏิกิริยาระหว่างสังคมและการละครในแต่ละสมัย และความเปลี่ยนแปลง ในแต่ละสมัยตลอดจนอิทธิพลที่ตกทอดสืบต่อมาในการละครอังกฤษและละครอเมริกันจนถึงสมัยปัจจุบัน |
|
|
|
|
ความรู้พื้นฐานในเรื่องการละครอังกฤษและละครอเมริกัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Introduction to English and Amercan Drama) |
ศึกษาลักษณะและวิวัฒนาการของการละครอังกฤษและละครอเมริกัน โดยเน้นเรื่องปฏิกิริยาระหว่างสังคมและการละครในแต่ละสมัย และความเปลี่ยนแปลง ในแต่ละสมัยตลอดจนอิทธิพลที่ตกทอดสืบต่อมาในการละครอังกฤษและละครอเมริกันจนถึงสมัยปัจจุบัน |
|
|
|
|
ตำนานอันเป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Mythological Background in Literature) |
ศึกษาเนื้อเรื่องและแนวคิดในเรื่องบางเรื่องจากตำนานกรีก โรมัน และชาติตะวันตกอืน ๆ รวมทั้งพระคัมภีร์ไบเบิ้ล โดยเชื่อมโยงถึงชื่อแก่นเรื่องและเนื้อหาของวรรณกรรมตะวันตกที่ได้ถ่ายทอดเนื้อเรื่องและแนวคิดจากตำนานนั้น ๆ รวมทั้งศึกษาตำนานอินเดียซึ่งเป็นบ่อเกิดของวรรณกรรมตะวันออกด้วย |
|
|
|
|
ตำนานอันเป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Mythological Background in Literature) |
ศึกษาเนื้อเรื่องและแนวคิดในเรื่องบางเรื่องจากตำนานกรีก โรมัน และชาติตะวันตกอืน ๆ รวมทั้งพระคัมภีร์ไบเบิ้ล โดยเชื่อมโยงถึงชื่อแก่นเรื่องและเนื้อหาของวรรณกรรมตะวันตกที่ได้ถ่ายทอดเนื้อเรื่องและแนวคิดจากตำนานนั้น ๆ รวมทั้งศึกษาตำนานอินเดียซึ่งเป็นบ่อเกิดของวรรณกรรมตะวันออกด้วย |
|
|
|
|
เทพนิยายที่เป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Mythological Background in Literature) |
ศุกษา วรรณคดีอังกฤษและอเมริกันรวมทั้งที่มาของเทพนิยายเห่านั้นด้วย |
|
|
|
|
เทพนิยายที่เป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Mythological Background in Literature) |
ศุกษา วรรณคดีอังกฤษและอเมริกันรวมทั้งที่มาของเทพนิยายเห่านั้นด้วย |
|
|
|
|
เทพนิยายที่เป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Mythological Background in Literaiture) |
เทพนิยายที่เป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
|
|
|
|
เทพนิยายที่เป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Mythological Background in Literaiture) |
เทพนิยายที่เป็นพื้นฐานของวรรณคดี |
|
|
|
|
|
|
|
(Argumentative Writing) |
ศึกษาวิธีและฝึกเขียนอนุเฉทและบทความเชิงสาธกขนาดสั้นที่แสดงเหตผล(cause and effect) การเปรียบเทียบ (comparison and contrast)การวิเคราะห์ (analysis) โดยเน้นเรื่องเอกภาพ(unity) ความสมดุลย์(balance)ความต่อเนื่อง(coherence)ของข้อเขียน |
|
|
|
|
|
|
|
(Argumentative Writing) |
ศึกษาวิธีและฝึกเขียนอนุเฉทและบทความเชิงสาธกขนาดสั้นที่แสดงเหตผล(cause and effect) การเปรียบเทียบ (comparison and contrast)การวิเคราะห์ (analysis) โดยเน้นเรื่องเอกภาพ(unity) ความสมดุลย์(balance)ความต่อเนื่อง(coherence)ของข้อเขียน |
|
|
|
|
|
|
|
(Argumentative Writing) |
- |
|
|
|
|
|
|
|
(Argumentative Writing) |
- |
|
|
|
|
|
|
|
(Argumentative Writing) |
การเขียนเชิงสาธก |
|
|
|
|
|
|
|
(Argumentative Writing) |
การเขียนเชิงสาธก |
|
|
|
|
การอ่านเพื่อศึกษาข้อเท็จจริง |
1976 |
หน่วย |
|
|
|
(CRITICAL READING) |
การอ่านเพื่อการศึกษาข้อเท็จจริง ได้แก่ การอ่านเพื่อความเข้าใจ และการอ่านเพื่อตีความ |
|
|
|
|
การอ่านเพื่อศึกษาข้อเท็จจริง |
1976 |
หน่วย |
|
|
|
(CRITICAL READING) |
การอ่านเพื่อการศึกษาข้อเท็จจริง ได้แก่ การอ่านเพื่อความเข้าใจ และการอ่านเพื่อตีความ |
|
|
|
|
การอ่านเพื่อศคกษาข้อเท็จจริง |
3 |
หน่วย |
|
|
|
|
|
|
|
การอ่านเพื่อศคกษาข้อเท็จจริง |
3 |
หน่วย |
|
|
|
|
|
|
|
การอ่านเพื่อศึกษาข้อเท็จจริง |
- |
หน่วย |
|
|
|
|
|
|
|
การอ่านเพื่อศึกษาข้อเท็จจริง |
- |
หน่วย |
|
|
|
|
|
|
|
การอ่านเพื่อความซาบซึ้ง |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Appreciative Reading) |
ศึกษาวิธีและฝึกอ่านข้อเขียนประเภทต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเข้าใจรูปแบบและเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง เช่นอ่านกลเม็ดต่าง ๆ ที่ผู้เขียนสอดแทรกไว้ในการเขียนได้ถูกต้องและจับความหมายในระดับต่าง ๆ ของข้อเขียนได้หมดจดตามเจตนาของผู้เขียน |
|
|
|
|
การอ่านเพื่อความซาบซึ้ง |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Appreciative Reading) |
ศึกษาวิธีและฝึกอ่านข้อเขียนประเภทต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเข้าใจรูปแบบและเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง เช่นอ่านกลเม็ดต่าง ๆ ที่ผู้เขียนสอดแทรกไว้ในการเขียนได้ถูกต้องและจับความหมายในระดับต่าง ๆ ของข้อเขียนได้หมดจดตามเจตนาของผู้เขียน |
|
|
|
|
การฟังเพื่อความเข้าใจ 1 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Listening for Comorehension 1) |
ศึกษาวิธีและฝึกฟังในระดับประโยค โดยเน้นที่การจำแนกเสียงของคำที่มีการออกเสียงคล้ายกัน คำที่มีเสียงหนัก เสียงเบา พร้อมทั้งจับทำนองเสียง (intonation) ตลอดจนฝึกฟังข้อความสั้น ๆ เช่นบทสนทนา การสัมภาษณ์ ข่าว การโฆษณา โดยสามารถบอกได้ว่าข้อความที่ฟังเป็นข้อความชนิดใดพร้อมทั้งจับใจความสำคัญฝึกเขียนตามคำบอก (dictation) และเขียนบทสรุปจากข้อความที่ได้ยิน |
|
|
|
|
การฟังเพื่อความเข้าใจ 1 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Listening for Comorehension 1) |
ศึกษาวิธีและฝึกฟังในระดับประโยค โดยเน้นที่การจำแนกเสียงของคำที่มีการออกเสียงคล้ายกัน คำที่มีเสียงหนัก เสียงเบา พร้อมทั้งจับทำนองเสียง (intonation) ตลอดจนฝึกฟังข้อความสั้น ๆ เช่นบทสนทนา การสัมภาษณ์ ข่าว การโฆษณา โดยสามารถบอกได้ว่าข้อความที่ฟังเป็นข้อความชนิดใดพร้อมทั้งจับใจความสำคัญฝึกเขียนตามคำบอก (dictation) และเขียนบทสรุปจากข้อความที่ได้ยิน |
|
|
|
|
การฟังเพื่อความเข้าใจ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(LISTENING FOR COMPREHENSION) |
ศึกษา ความรู้ภาษาอังกฤษทั่วไป ทั้งไวยากรณ์ โครงสร้าง การออกเสียง |
|
|
|
|
การฟังเพื่อความเข้าใจ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(LISTENING FOR COMPREHENSION) |
ศึกษา ความรู้ภาษาอังกฤษทั่วไป ทั้งไวยากรณ์ โครงสร้าง การออกเสียง |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในเรื่องการสมัครงาน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH FOR JOB APPLICATIONS) |
ศึกษาเกี่ยวกับการอ่าน การเขียน และการสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสมัครงาน |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในเรื่องการสมัครงาน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH FOR JOB APPLICATIONS) |
ศึกษาเกี่ยวกับการอ่าน การเขียน และการสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสมัครงาน |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในเรื่องการสมัครงาน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English for job Applications) |
ศึกษารูปแบบ ฝึกอ่าน และเขียน ประกาศรับสมัครเข้าทำงานของอาชีพสาขาต่าง ๆ แบบกรอกข้อความสมัครเข้าทำงาน จดหมายสมัครงาน ประวัติย่อและจดหมายรับรองความสามารถ และความประพฤติของผู้สมัคร |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในเรื่องการสมัครงาน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English for job Applications) |
ศึกษารูปแบบ ฝึกอ่าน และเขียน ประกาศรับสมัครเข้าทำงานของอาชีพสาขาต่าง ๆ แบบกรอกข้อความสมัครเข้าทำงาน จดหมายสมัครงาน ประวัติย่อและจดหมายรับรองความสามารถ และความประพฤติของผู้สมัคร |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสำนักงาน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH IN OFFICE WORK) |
ภาษาอังกฤษในสำนักงาน |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสำนักงาน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH IN OFFICE WORK) |
ภาษาอังกฤษในสำนักงาน |
|
|
|
|
จุดมุ่งหมายหลักการและวิธีแปล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Nature and Methods of Translation) |
ศึกษาเรื่องจุดมุ่งหมาย หลักการ และวิธ๊แปลแบบต่าง ๆ และฝึกแปลข้อความตามทฤษฎีต่าง ๆ ที่ได้ศึกษา |
|
|
|
|
จุดมุ่งหมายหลักการและวิธีแปล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Nature and Methods of Translation) |
ศึกษาเรื่องจุดมุ่งหมาย หลักการ และวิธ๊แปลแบบต่าง ๆ และฝึกแปลข้อความตามทฤษฎีต่าง ๆ ที่ได้ศึกษา |
|
|
|
|
จุดมุงหมาย หลักการ และวีธีการแปล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(nature and methods of translation) |
ศึกษา คำจำกัดการแปล ประวัคิการแปลทางตะวันตก ประวัติการแปลในประเทศไทย |
|
|
|
|
จุดมุงหมาย หลักการ และวีธีการแปล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(nature and methods of translation) |
ศึกษา คำจำกัดการแปล ประวัคิการแปลทางตะวันตก ประวัติการแปลในประเทศไทย |
|
|
|
|
จุดมุ่งหมาย หลักการและวิธีแปล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(NATURE AND MRTHODS OF TRANSLATION) |
จุดมุ่งหมาย หลักการและวิธีแปล |
|
|
|
|
จุดมุ่งหมาย หลักการและวิธีแปล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(NATURE AND MRTHODS OF TRANSLATION) |
จุดมุ่งหมาย หลักการและวิธีแปล |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษสำหรับมัคคุเทศก์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English for Guides) |
ศึกษาและฝึกใช้ประโยคและข้อความภาษาอังกฤษต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับงานมัคคุเทศก์ เช่น การทักทายและการกล่าวโอภาปราศรัย การบอกกล่าวเรื่องราวต่าง ๆ การฟังและตอบคำถาม การพรรณนาลักษณะและความสำคัญและการบรรยาย ประวัติของบุคคลสิ่งของและสถานที่ซึ่งเป็นจุดความสนใจของนักท่องเที่ยวตลอดจนการพรรณนาได้โดยย่อแต่ครอบคลุมสาระสำคัญในเรื่องภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การปกครองและการเศรษฐกิจของประเทศไทย |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษสำหรับมัคคุเทศก์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English for Guides) |
ศึกษาและฝึกใช้ประโยคและข้อความภาษาอังกฤษต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับงานมัคคุเทศก์ เช่น การทักทายและการกล่าวโอภาปราศรัย การบอกกล่าวเรื่องราวต่าง ๆ การฟังและตอบคำถาม การพรรณนาลักษณะและความสำคัญและการบรรยาย ประวัติของบุคคลสิ่งของและสถานที่ซึ่งเป็นจุดความสนใจของนักท่องเที่ยวตลอดจนการพรรณนาได้โดยย่อแต่ครอบคลุมสาระสำคัญในเรื่องภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การปกครองและการเศรษฐกิจของประเทศไทย |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษสำหรับมัคคุเทศก์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH FOR GUIDES) |
ภาษาอังกฤษสำหรับมัคคุเทศก์ |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษสำหรับมัคคุเทศก์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH FOR GUIDES) |
ภาษาอังกฤษสำหรับมัคคุเทศก์ |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขาเศรษฐศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH IN THE FIELD OF ECONOMICS) |
- |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขาเศรษฐศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH IN THE FIELD OF ECONOMICS) |
- |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขารัฐศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English in the Field of Political Science) |
ศึกษาลักษณะการเขียนในตำรา วารสารและรายงานในสาขารัฐศาสตร์และฝึกอ่านบทตัดตอนจากข้อเขียนประเภทนี้ เพื่อให้คุ้นเคยกับแนวการเขียนรูปแบบของประโยคศัพท์เฉพาะและศัพท์ทั่วไป ที่ใช้กันอยู่เป็นปกติในข้อเขียนเหล่านี้ จนสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้โดยถูกต้องและรวดเร็ว |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขารัฐศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English in the Field of Political Science) |
ศึกษาลักษณะการเขียนในตำรา วารสารและรายงานในสาขารัฐศาสตร์และฝึกอ่านบทตัดตอนจากข้อเขียนประเภทนี้ เพื่อให้คุ้นเคยกับแนวการเขียนรูปแบบของประโยคศัพท์เฉพาะและศัพท์ทั่วไป ที่ใช้กันอยู่เป็นปกติในข้อเขียนเหล่านี้ จนสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้โดยถูกต้องและรวดเร็ว |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขาศึกษาศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English in the Field of Education) |
ศึกษาลักษณะการเขียนในตำรา วารสารและรายงานในสาขาศึกษาศาสตร์และฝึกอ่านบทตัดตอนจากข้อเขียนประเภทนี้ เพื่อให้คุ้นเคยกับแนวการเขียนรูปแบบของประโยคศัพท์เฉพาะและศัพท์ทั่วไป ที่ใช้กันอยู่เป็นปกติในข้อเขียนเหล่านี้ จนสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้โดยถูกต้องและรวดเร็ว |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขาศึกษาศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English in the Field of Education) |
ศึกษาลักษณะการเขียนในตำรา วารสารและรายงานในสาขาศึกษาศาสตร์และฝึกอ่านบทตัดตอนจากข้อเขียนประเภทนี้ เพื่อให้คุ้นเคยกับแนวการเขียนรูปแบบของประโยคศัพท์เฉพาะและศัพท์ทั่วไป ที่ใช้กันอยู่เป็นปกติในข้อเขียนเหล่านี้ จนสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้โดยถูกต้องและรวดเร็ว |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขาศึกษาศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English in the Field of Education) |
ศึกษา Ore-Peading นักศึกษาจะมีส่วนร่วมในส่วนแรกด้วยการอภิปรายหรือตอบคำถาม 2-3 คำถาม เพื่อนำไปสู่การอ่านเรื่องเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำถามดังกล่าว |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในสาขาศึกษาศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(English in the Field of Education) |
ศึกษา Ore-Peading นักศึกษาจะมีส่วนร่วมในส่วนแรกด้วยการอภิปรายหรือตอบคำถาม 2-3 คำถาม เพื่อนำไปสู่การอ่านเรื่องเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำถามดังกล่าว |
|
|
|
|
วรรณคดีสมัยคริสตศตวรรษที่ 17 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Seventeenth Century Literatures) |
ศึกษาวรรณกรรมที่ผลิตขึ้นในระหว่างค.ศ. 1626 ถึง ค.ศ. 1700 ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งในรูปของการลดความเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ลง โดยที่ยังสืบทอดประเพณีนิยมทางวรรณคดีบางประการไว้ ทั้งนี้โดยเน้นเรื่องโลกทัศน์ความรู้สึกนึกคิดและศิลปะการเขียนของนักเขียนที่สำคัญ เช่น John Donne, John Milton และ John Dryden |
|
|
|
|
วรรณคดีสมัยคริสตศตวรรษที่ 17 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Seventeenth Century Literatures) |
ศึกษาวรรณกรรมที่ผลิตขึ้นในระหว่างค.ศ. 1626 ถึง ค.ศ. 1700 ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งในรูปของการลดความเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ลง โดยที่ยังสืบทอดประเพณีนิยมทางวรรณคดีบางประการไว้ ทั้งนี้โดยเน้นเรื่องโลกทัศน์ความรู้สึกนึกคิดและศิลปะการเขียนของนักเขียนที่สำคัญ เช่น John Donne, John Milton และ John Dryden |
|
|
|
|
วรรณคดีสมัยศตวรรษที่ 17 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(severiteenith ceritury literature) |
ศึกษา นักประพันธ์ในศตวรรษที่ 17 มีมากมายหลายกลุ่ม |
|
|
|
|
วรรณคดีสมัยศตวรรษที่ 17 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(severiteenith ceritury literature) |
ศึกษา นักประพันธ์ในศตวรรษที่ 17 มีมากมายหลายกลุ่ม |
|
|
|
|
กวีนิพนธ์ประเภทแสดงอารมณ์และความคิดความรู้สึกส่วนตัว |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Lyrical Poetry) |
ศึกษากวีนิพนธ์อังกฤษและกวีนิพนธ์อเมริกันประเภทแสดงอารมณ์และความคิดความรู้สึกส่วนตัว โดยศึกษาจุลคีตนิพนธ์ (Sonnet) บทสรรเสริญ (Ode) และกลอนสั้นแสดงอารมณ์ (Lyric) และเน้นวิธีการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของกวีตลอดจนการใช้อุปกรณ์ทางวรรณศิลป์ (Literary devices) ต่าง ๆ |
|
|
|
|
กวีนิพนธ์ประเภทแสดงอารมณ์และความคิดความรู้สึกส่วนตัว |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Lyrical Poetry) |
ศึกษากวีนิพนธ์อังกฤษและกวีนิพนธ์อเมริกันประเภทแสดงอารมณ์และความคิดความรู้สึกส่วนตัว โดยศึกษาจุลคีตนิพนธ์ (Sonnet) บทสรรเสริญ (Ode) และกลอนสั้นแสดงอารมณ์ (Lyric) และเน้นวิธีการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของกวีตลอดจนการใช้อุปกรณ์ทางวรรณศิลป์ (Literary devices) ต่าง ๆ |
|
|
|
|
เรื่องสั้นประเภทเน้นพัฒนาการของบุคลิกภาพของตัวละคร |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(The Short Story of Character) |
ศึกษาเรื่องสั้นประเภทเน้นพัฒนาการบุคลิกภาพของตัวละคร โดยนักเขียนอังกฤษและอเมริกัน โดยเน้นเรื่องจุดยืนในการเสนอเรื่องการกำหนดลักษณะและบุคลิกภาพของตัวละคร การดึงเข้าสู่ปัญหาของเรื่องการใช้ฉากและเหตุการณ์พลิกบุคลิกภาพของตัวละครจนทำให้ตัวละครมีพฤติกรรมที่คาดไม่ถึงในเหตุการณ์อันเป็นจุดสนใจสุดยอด หรือใช้ฉากและเหตุการณ์อันเป็นจุดสนใจสุดยอดพลิกบุคลิกภาพของตัวละครสำคัญ ทำให้เรื่องจบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในความรู้สึกของผู้อ่านที่มีตัวละคร |
|
|
|
|
เรื่องสั้นประเภทเน้นพัฒนาการของบุคลิกภาพของตัวละคร |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(The Short Story of Character) |
ศึกษาเรื่องสั้นประเภทเน้นพัฒนาการบุคลิกภาพของตัวละคร โดยนักเขียนอังกฤษและอเมริกัน โดยเน้นเรื่องจุดยืนในการเสนอเรื่องการกำหนดลักษณะและบุคลิกภาพของตัวละคร การดึงเข้าสู่ปัญหาของเรื่องการใช้ฉากและเหตุการณ์พลิกบุคลิกภาพของตัวละครจนทำให้ตัวละครมีพฤติกรรมที่คาดไม่ถึงในเหตุการณ์อันเป็นจุดสนใจสุดยอด หรือใช้ฉากและเหตุการณ์อันเป็นจุดสนใจสุดยอดพลิกบุคลิกภาพของตัวละครสำคัญ ทำให้เรื่องจบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในความรู้สึกของผู้อ่านที่มีตัวละคร |
|
|
|
|
เรื่องสั้นอังกฤษและอเมริกัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH AND AMERICAN SHORT STORIES) |
|
|
|
|
|
เรื่องสั้นอังกฤษและอเมริกัน |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(ENGLISH AND AMERICAN SHORT STORIES) |
|
|
|
|
|
องค์ประกอบของเรื่องสั้น |
- |
หน่วย |
|
|
|
(The Elements of Short Stories) |
- |
|
|
|
|
องค์ประกอบของเรื่องสั้น |
- |
หน่วย |
|
|
|
(The Elements of Short Stories) |
- |
|
|
|
|
นวนิยายประเภทเน้นปฏิกิริยาระหว่างบุคลิกภาพและเหตุการณ์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(The Dramatic Novel) |
ศึกษานวนิยายประเภทเน้นอิทธิพลซึ่งบุคลิกภาพและเหตุการณ์มีต่อกันโดยนักเขียนอังกฤษและนักเขียนอเมริกัน โดยเน้นเรื่องจุดยืนในการเสนอเรื่องวิธีเริ่มเรื่องวิธีแสดงบุคลิกภาพของตัวละคร การเลือกเหตุการณ์วิธีแสดงความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องระหว่างบุคลิกภาพของตัวละครกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่องวิธีเสนอจุดสนใจสุดยอดและวิธีจบเรื่องตลอดจนการใช้บทสนทนาและสิ่งประกอบอื่น ๆ เช่น ฉากสัญลักษณ์ เพื่อประกอบการแสดงแนวความคิดอันเป็นแก่นของเรื่องให้ชัดเจนและมีน้ำหนักยิ่งขึ้น |
|
|
|
|
นวนิยายประเภทเน้นปฏิกิริยาระหว่างบุคลิกภาพและเหตุการณ์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(The Dramatic Novel) |
ศึกษานวนิยายประเภทเน้นอิทธิพลซึ่งบุคลิกภาพและเหตุการณ์มีต่อกันโดยนักเขียนอังกฤษและนักเขียนอเมริกัน โดยเน้นเรื่องจุดยืนในการเสนอเรื่องวิธีเริ่มเรื่องวิธีแสดงบุคลิกภาพของตัวละคร การเลือกเหตุการณ์วิธีแสดงความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องระหว่างบุคลิกภาพของตัวละครกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่องวิธีเสนอจุดสนใจสุดยอดและวิธีจบเรื่องตลอดจนการใช้บทสนทนาและสิ่งประกอบอื่น ๆ เช่น ฉากสัญลักษณ์ เพื่อประกอบการแสดงแนวความคิดอันเป็นแก่นของเรื่องให้ชัดเจนและมีน้ำหนักยิ่งขึ้น |
|
|
|
|
กวีนิพนธ์ของวิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(William Wordsworth's Poems) |
ศึกษากวีนิพนธ์ของ Wordsworth โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโคลงที่รวมเรียกว่า The Lucy Poem และ The Daffodils และโศลกที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ The Immortality Ode โดยเน้นแนวความคิดของ Wordsworth ในเรื่อง มนุษย์ ธรรมชาติ และแก่นแท้ของกวีนิพนธ์ควบคู่กันไปกับการศึกษาศิลปะการเขียนที่มีลักษณะเรียบง่าย แต่แจ่มชัดของกวีเอกผู้นี้ |
|
|
|
|
กวีนิพนธ์ของวิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(William Wordsworth's Poems) |
ศึกษากวีนิพนธ์ของ Wordsworth โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโคลงที่รวมเรียกว่า The Lucy Poem และ The Daffodils และโศลกที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ The Immortality Ode โดยเน้นแนวความคิดของ Wordsworth ในเรื่อง มนุษย์ ธรรมชาติ และแก่นแท้ของกวีนิพนธ์ควบคู่กันไปกับการศึกษาศิลปะการเขียนที่มีลักษณะเรียบง่าย แต่แจ่มชัดของกวีเอกผู้นี้ |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันสมัยอาณานิคมและสมัยก่อสร้างประเทศ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(American Literature in the Colonial and Nation-Founding Period) |
ศึกษาวรรณกรรมที่ผลิตขึ้นในสมัยที่ประเทศอเมริกายังเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ (1620-1783) โดยเน้นเรื่องรูปแบบและแนวคิดของงานในประเภทข้อคิดคำนึงทางศาสนาและประเภทบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งวิวัฒนาการมาสู่รูปแบบและแนวความคิดต่าง ๆ ของวรรณกรรมในสมัยต่อมา และศึกษาวรรณกรรมซึ่งผลิตขึ้นในสมัยก่อสร้างประเทศสหรัฐอเมริกา (1784-1820) โดยเน้นความงอกงามในด้านชนิดและรูปแบบของการประพันธ์ และการหันเหของแนวความคิดทางด้านศาสนาไปในแนวทางที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นตลอดจนความรู้สึกชาตินิยมที่ก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง เช่น ในงานเขียนของ John Smith, Michael Wigglesworth, William Bradford, Jonathan Edwards, Benjamin Franklin และ Philip Freneau |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันสมัยอาณานิคมและสมัยก่อสร้างประเทศ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(American Literature in the Colonial and Nation-Founding Period) |
ศึกษาวรรณกรรมที่ผลิตขึ้นในสมัยที่ประเทศอเมริกายังเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ (1620-1783) โดยเน้นเรื่องรูปแบบและแนวคิดของงานในประเภทข้อคิดคำนึงทางศาสนาและประเภทบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งวิวัฒนาการมาสู่รูปแบบและแนวความคิดต่าง ๆ ของวรรณกรรมในสมัยต่อมา และศึกษาวรรณกรรมซึ่งผลิตขึ้นในสมัยก่อสร้างประเทศสหรัฐอเมริกา (1784-1820) โดยเน้นความงอกงามในด้านชนิดและรูปแบบของการประพันธ์ และการหันเหของแนวความคิดทางด้านศาสนาไปในแนวทางที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นตลอดจนความรู้สึกชาตินิยมที่ก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง เช่น ในงานเขียนของ John Smith, Michael Wigglesworth, William Bradford, Jonathan Edwards, Benjamin Franklin และ Philip Freneau |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันสมัยอาณานิคมและสมัยก่อตั้งประเทศ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(American Literdture in the Colonial and Nation -Founding Period) |
วรรณคดีอเมริกันสมัยอาณานิคมและสมัยก่อตั้งประเทศ |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันสมัยอาณานิคมและสมัยก่อตั้งประเทศ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(American Literdture in the Colonial and Nation -Founding Period) |
วรรณคดีอเมริกันสมัยอาณานิคมและสมัยก่อตั้งประเทศ |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกัน 3 แบบฝึกหัดหนังสืออ่านนอกเวลา |
- |
หน่วย |
|
|
|
(A Workbook for Survey of American Literature 3) |
- |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกัน 3 แบบฝึกหัดหนังสืออ่านนอกเวลา |
- |
หน่วย |
|
|
|
(A Workbook for Survey of American Literature 3) |
- |
|
|
|
|
นวนิยายและเรื่องสั้นสมัยสัจนิยมและธรรมชาตินิยม |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Novels and Short Stories of the Age of Realism and Naturalism) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดในนวนิยายและเรื่องสั้นของนักเขียนสำคัญสมัยสัจนิยม และธรรมชาตินิยม (1900-1945) เช่นHenry James, Mark Twain, Theodore Dreiser, Sinclair Lewis, Scott Fitzgerald, Ernest Hemingway, William Faulkner และ Thomas Wolfe |
|
|
|
|
นวนิยายและเรื่องสั้นสมัยสัจนิยมและธรรมชาตินิยม |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Novels and Short Stories of the Age of Realism and Naturalism) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดในนวนิยายและเรื่องสั้นของนักเขียนสำคัญสมัยสัจนิยม และธรรมชาตินิยม (1900-1945) เช่นHenry James, Mark Twain, Theodore Dreiser, Sinclair Lewis, Scott Fitzgerald, Ernest Hemingway, William Faulkner และ Thomas Wolfe |
|
|
|
|
วรรณกรรมสำหรับเด็ก |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Children Literature) |
Children Literature, ENG 3901, is an elective course in World Literature.
The textbook is divided into five chapters discussing the basic components that
are inherent in this imaginative genre catering toward a childrens audience in
particular. Each chapter is carefully developed to emphasize sample works of
renowned authors of this field. Throughout the book, activities and discussion
questions will stimulate critical thinking and cognitive understanding. It is hoped
that this course will acquaint students with the pleasures gained in this type of
writing. |
|
|
|
|
วรรณกรรมสำหรับเด็ก |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Children Literature) |
Children Literature, ENG 3901, is an elective course in World Literature.
The textbook is divided into five chapters discussing the basic components that
are inherent in this imaginative genre catering toward a childrens audience in
particular. Each chapter is carefully developed to emphasize sample works of
renowned authors of this field. Throughout the book, activities and discussion
questions will stimulate critical thinking and cognitive understanding. It is hoped
that this course will acquaint students with the pleasures gained in this type of
writing. |
|
|
|
|
วรรณกรรมของนักเขียนรางวัลโนเบล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Selected Works of Nobel Prize Authors) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และแนวความคิดของผู้เขียนรางวัลโนเบลในงานเขียนของ Becket, Golding, Kipling, Kawabata และ Solhenitsyn เป็นต้น |
|
|
|
|
วรรณกรรมของนักเขียนรางวัลโนเบล |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Selected Works of Nobel Prize Authors) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และแนวความคิดของผู้เขียนรางวัลโนเบลในงานเขียนของ Becket, Golding, Kipling, Kawabata และ Solhenitsyn เป็นต้น |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษระดับสูง 2 |
- |
หน่วย |
|
|
|
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษระดับสูง 2 |
- |
หน่วย |
|
|
|
|
|
|
|
การเขียนย่อความ บทแสดงความคิดเห็นและจดหมาย |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Precis Features an letter writing) |
การเขียนย่อความ บทแสดงความคิดเห็นและจดหมาย |
|
|
|
|
การเขียนย่อความ บทแสดงความคิดเห็นและจดหมาย |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Precis Features an letter writing) |
การเขียนย่อความ บทแสดงความคิดเห็นและจดหมาย |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษสำหรับเลขานุการ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Secretarial English) |
ศึกษารูปแบบและฝึกอ่านและเขียนจดหมายชนิดต่าง ๆ บันทึกข้อความติดต่อการงานรายงานสรุปและรายงานการประชุม ในขอบเขตและจำนวนที่สูงขึ้นไปกว่าที่ศึกษาใน en321 โดยเน้นเรื่องการเขียน |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษสำหรับเลขานุการ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Secretarial English) |
ศึกษารูปแบบและฝึกอ่านและเขียนจดหมายชนิดต่าง ๆ บันทึกข้อความติดต่อการงานรายงานสรุปและรายงานการประชุม ในขอบเขตและจำนวนที่สูงขึ้นไปกว่าที่ศึกษาใน en321 โดยเน้นเรื่องการเขียน |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Journalistic English) |
ศึกษารูปแบบและฝึกเขียนภาษาอังกฤษที่ใช้ภาคต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์ เช่น ในหัวข่าว ในข่าว ในบทบรรณาธิการ ในบทความ ในประกาศแจ้วความและในโฆษณาต่าง ๆ |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Journalistic English) |
ศึกษารูปแบบและฝึกเขียนภาษาอังกฤษที่ใช้ภาคต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์ เช่น ในหัวข่าว ในข่าว ในบทบรรณาธิการ ในบทความ ในประกาศแจ้วความและในโฆษณาต่าง ๆ |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(JOURNALISTIC ENGLISH) |
ศึกษา ทฤษฎีว่าด้วยภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ และตัวอย่างงานเขียนประเภทต่าง ๆ |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(JOURNALISTIC ENGLISH) |
ศึกษา ทฤษฎีว่าด้วยภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ และตัวอย่างงานเขียนประเภทต่าง ๆ |
|
|
|
|
การเขียนแบบสร้างสรรค์เบื้องต้น |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Introduction to Creative Writing) |
การเขียนแบบสร้างสรรค์เบื้องต้น สำหรับนักศึกษาที่สนใจเพิ่มทักษะการเขียนวิชาภาษาอังกฤษ สนใจงานเขียนให้มีรายละเอียดที่โดดเด่นสมจริงมากขึ้น |
|
|
|
|
การเขียนแบบสร้างสรรค์เบื้องต้น |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Introduction to Creative Writing) |
การเขียนแบบสร้างสรรค์เบื้องต้น สำหรับนักศึกษาที่สนใจเพิ่มทักษะการเขียนวิชาภาษาอังกฤษ สนใจงานเขียนให้มีรายละเอียดที่โดดเด่นสมจริงมากขึ้น |
|
|
|
|
การเขียนสร้างสรรค์เบื้องต้น |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Introduction to Creative Writing) |
การเขียนสร้างสรรค์เบื้องต้น |
|
|
|
|
การเขียนสร้างสรรค์เบื้องต้น |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Introduction to Creative Writing) |
การเขียนสร้างสรรค์เบื้องต้น |
|
|
|
|
การแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Movies and Television Scripts Translation) |
ศึกษาหลักเกณฑ์ในการแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์ ศึกษาตัวอย่างการแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์ที่น่าสนใจ ฝึกแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์โดยเน้นการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย |
|
|
|
|
การแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Movies and Television Scripts Translation) |
ศึกษาหลักเกณฑ์ในการแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์ ศึกษาตัวอย่างการแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์ที่น่าสนใจ ฝึกแปลบทภาพยนตร์และบทโทรทัศน์โดยเน้นการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันปัจจุบัน |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Modern American Literature) |
- |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันปัจจุบัน |
- |
หน่วย |
|
|
|
(Modern American Literature) |
- |
|
|
|
|
ละครประวัติศาสตร์ของวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(William Shakespeare's History Plays) |
- |
|
|
|
|
ละครประวัติศาสตร์ของวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(William Shakespeare's History Plays) |
- |
|
|
|
|
|
|
|
(Henry James) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดในบทประพันธ์ของ Henry James โดยเน้นลักษณะสำคัญต่าง ๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเขียนของนักเขียนอเมริกันในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะเรื่อง The Portraifof a Lady ,The Ambassadors , The Golden Bowl และ The Wing of Dove |
|
|
|
|
|
|
|
(Henry James) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดในบทประพันธ์ของ Henry James โดยเน้นลักษณะสำคัญต่าง ๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเขียนของนักเขียนอเมริกันในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะเรื่อง The Portraifof a Lady ,The Ambassadors , The Golden Bowl และ The Wing of Dove |
|
|
|
|
|
|
|
(Women Authors) |
ศึกษารูปแบบบทประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดของนักประพันธ์สตรีอเมริกัน โดยเน้นความเห็นของนักประพันธ์ที่เกี่ยวกับสตรีทั้งในด้านส่วนตัวและในด้านสังคมโดยเฉพาะบทประพันธ์ของ Emily Dickinson , Kate Chopin , Edith Wharton , Eudora Welty และ Flannery O ' Conner |
|
|
|
|
|
|
|
(Women Authors) |
ศึกษารูปแบบบทประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดของนักประพันธ์สตรีอเมริกัน โดยเน้นความเห็นของนักประพันธ์ที่เกี่ยวกับสตรีทั้งในด้านส่วนตัวและในด้านสังคมโดยเฉพาะบทประพันธ์ของ Emily Dickinson , Kate Chopin , Edith Wharton , Eudora Welty และ Flannery O ' Conner |
|
|
|
|
วรรณกรรมของนักประพันธ์อเมริกันผิวดำ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Black Literature) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดในวรรณกรรมร้อยแก้ว และวรรณกรรมร้อยกรองดีเด่นที่ผลิตขึ้นโดยคนอเมริกันผิวดำ ตัวแต่ลมัยทาส จนถึงปัจุบัน เช่นบทประพันธ์ของ Richard Writght , RalphEllison , Alice Walker, Augustus Baldwin, Arna Bontemps, Charles W.Chestnut , Langston Hughes, Jean Toomer เป็นต้น |
|
|
|
|
วรรณกรรมของนักประพันธ์อเมริกันผิวดำ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Black Literature) |
ศึกษารูปแบบการประพันธ์และความรู้สึกนึกคิดในวรรณกรรมร้อยแก้ว และวรรณกรรมร้อยกรองดีเด่นที่ผลิตขึ้นโดยคนอเมริกันผิวดำ ตัวแต่ลมัยทาส จนถึงปัจุบัน เช่นบทประพันธ์ของ Richard Writght , RalphEllison , Alice Walker, Augustus Baldwin, Arna Bontemps, Charles W.Chestnut , Langston Hughes, Jean Toomer เป็นต้น |
|
|
|
|
การฟังเพื่อความเข้าใจ 1 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Listening For Comprehension I) |
การฟังเพื่อความเข้าใจ 1 |
|
|
|
|
การฟังเพื่อความเข้าใจ 1 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Listening For Comprehension I) |
การฟังเพื่อความเข้าใจ 1 |
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันสมัยโรแมนติก |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(American Literature in the Romantic Period) |
|
|
|
|
|
วรรณคดีอเมริกันสมัยโรแมนติก |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(American Literature in the Romantic Period) |
|
|
|
|
|
ภาษาศาสตร์และการอ่าน 2 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(LINGUISTICS NAD READING 2) |
ภาษาศาสตร์และการอ่าน 2 |
|
|
|
|
ภาษาศาสตร์และการอ่าน 2 |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(LINGUISTICS NAD READING 2) |
ภาษาศาสตร์และการอ่าน 2 |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษระดับสูงในสาขาวิทยาศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Advanced English in the Fild of Science) |
ภาษาอังกฤษระดับสูงในสาขาวิทยาศาสตร์ |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษระดับสูงในสาขาวิทยาศาสตร์ |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(Advanced English in the Fild of Science) |
ภาษาอังกฤษระดับสูงในสาขาวิทยาศาสตร์ |
|
|
|
|
การแปลวรรณกรรม ภาษาอังวกฤษสำหรับเด็ก |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(children's english literary works translation) |
วรรณกรรม ภาษาอังวกฤษสำหรับเด็ก |
|
|
|
|
การแปลวรรณกรรม ภาษาอังวกฤษสำหรับเด็ก |
3 |
หน่วย |
|
|
|
(children's english literary works translation) |
วรรณกรรม ภาษาอังวกฤษสำหรับเด็ก |
|
|
|