สำหรับนักวิชาการชาวอังกฤษนั้น
มักเน้นศึกษาเนื้อหาสาระด้านความสัมพันธ์ของคนในแต่ละสังคมที่ร่วมกันสร้างและประพฤติปฏิบัติ
(หรือแสดงพฤติกรรม)
ต่อกันในกิจกรรมทางสังคมในแง่ครอบครัว
เศรษฐกิจ การเมือง
ศาสนาและความเชื่อ
การศึกษาและฝึกฝนอบรมการเรียนรู้ทางสังคม
และนันทนาการ
ได้เรียกองค์ความรู้ในสาขานี้ว่ามานุษยวิทยาสังคม
(Social Anthropology)
ลักษณะเนื้อหาสาระของวิชามานุษยวิทยาวัฒนธรรมและวิชามานุษยวิทยาสังคมได้นำไปกล่าวอย่างละเอียดในบทที่
8
เมื่ออิทธิพลของศิลปวิทยาการของชาติตะวันตกได้แผ่ขยายเข้ามาในประเทศไทย
คนไทยตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องรับเอา
"วิธีการศึกษาที่เป็นระบบ"
หรือ "ศาสตร์"
มาใช้ในการปรับปรุงระบบการศึกษาของไทย
ดังที่พระยาอนุมานราชธนกล่าวอยู่เสมอว่า
"สิ่งที่เราศึกษาต้องมีกรอบเป็นเครื่องรองรับ
จึงจะทำให้เกิดความเข้าใจ"(12)
อย่างถ่องแท้และเป็นเหตุผลอันง่ายต่อการเสริมเติมแต่งความรู้ต่อไปในอนาคต
นั่นหมายความว่า
ท่านได้เริ่มให้ความสนใจที่จะใช้กรอบความคิดและระเบียบวิธีศึกษาทางมานุษยวิทยาตะวันตกมาเป็นแนวทางในการศึกษาสังคมและวัฒนธรรม
จึงเป็นผลให้สาขาวิชามานุษยวิทยาในประเทศไทยเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้
แนวการจัดลำดับหนังสือ
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ผู้เริ่มเรียนขั้นต้นของชั้นปริญญาตรี
ทั้งที่จะเลือกเรียนวิชามานุษยวิทยาเป็นวิชาเอกและ/หรือเรียนเป็นวิชาพื้นฐาน
และวิชาเลือกเสรีในมหาวิทยาลัย
วิทยาลัย
และสถานศึกษาทุกแห่ง
และผู้เริ่มเรียนชั้นปริญญาโทที่ขาดความรู้พื้นฐานในสาขาวิชามานุษยวิทยาได้มีความรู้ความเข้าใจถึงขอบเขตเนื้อหาสาระ
ระเบียบวิธีการศึกษา
และการใช้ประโยชน์จากวิชาเกี่ยวกับมนุษย์และสังคมวัฒนธรรมในมุมกว้าง
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ก็คือ
การศึกษาหรือมองวิชามานุษยวิทยาจากสายตาของคนไทย
เพื่อชี้ชัดว่าคนไทยได้ให้ความสนใจศึกษาเรื่องคนและสังคมวัฒนธรรมมานาน
และการศึกษาสาขาวิชานี้จะก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่ประชาชนชาวสยามอย่างแท้จริง
จริงอยู่องค์แห่งความรู้ที่เป็นระบบจะมีรากฐานมาจากชาวยุโรปและอเมริกา
และพวกเขาต่างใช้ประโยชน์
|