ดังนั้นการเปิดหูเปิดตาเพื่อตรวจสอบข้อมูลในขณะที่สัมภาษณ์จะทำให้ล่วงรู้ถึงแง่มุมที่ไม่ถูกต้องได้
ดังตัวอย่างเช่น
การที่ชาวนาในจังหวัดปราจีนบุรีไม่นิยมปลูกข้าวโพดพันธุ์ใหม่
มิใช่เป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น
หรือขี้เกียจ
หรือต่อต้านการนำพืชพันธุ์ใหม่ไปปลูก
แต่เป็นเพราะข้าวโพดพันธุ์ใหม่มีรสหวานและไม่เป็นที่นิยมในการบริโภคของชาวบ้านแถบนั้น8
เป็นต้น
(5)
นักมานุษยวิทยาไม่ควรใช้ค่านิยม
(value)
ของตนเข้าไปวัดพฤติกรรมของคนในสังคมที่กำลังศึกษา
เช่น ความเป็นเหตุเป็นผล (rationality)
ของคนในสังคมเมือง
อาจเป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่
แต่ของคนในสังคม/กลุ่มนั้นอาจมีความเป็นเหตุเป็นผลแตกต่างกันออกไป
Karl Polanyi
นักมานุษยวิทยาผู้มีชื่อเสียงได้แยกความแตกต่างระหว่างการใช้หลักตรรกศาสตร์
(formalmeaning)
กับการกระทำที่เป็นจริง (substantive
meaning) ว่า
การศึกษาโดยใช้หลักตรรกศาสตร์นั้นเป็นการศึกษาที่ใช้หลักตรรกวิทยาเพื่อนำมาตั้งเป็นกฎเกณฑ์ขึ้น
กฎเหล่านี้จะใช้เป็นหลักในการตัดสินใจเพื่อเลือกใช้วิธีการหรือหนทางที่ดีที่สุดจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
ส่วนการศึกษาที่ใช้ข้อเท็จจริงนั้นเป็นการศึกษาที่ดูจากพฤติกรรมที่แสดงออกจริง
ๆ
ของคนในสังคมว่าเป็นเช่นไร
ทั้งนี้เพราะถือว่ามนุษย์ในสังคมนั้น
ๆ
ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและเพื่อนร่วมสังคมของเขา
โดยเน้นแนวความคิดที่ว่ามนุษย์จะต้องมีความสัมพันธ์ต่อกันภายใต้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
และระบบสังคมของเขา....9
ฉะนั้น
นักมานุษยวิทยาควรจะอธิบายพฤติกรรม/ปรากฏการณ์นั้น
ๆ ว่าเป็นเช่นใด
มีหน้าที่ประโยชน์ต่อสังคมนั้นอย่างไร
มากกว่าที่จะใช้ค่านิยมของตนไปกำหนดว่า
ดี/เลว ถูกต้อง/ไม่ถูกต้อง
มีเหตุผล/ไม่มีเหตุผล
|