ได้แก่
ความพยายามที่จะศึกษาความสัมพันธ์/วัฒนธรรมเพื่อให้ได้รับข้อเท็จจริงมากที่สุด
ผู้วิจัยจะต้องใช้ชีวิตอาศัยอยู่ร่วมและทำกิจกรรมต่าง
ๆ
ร่วมกับคนกลุ่มนั้นเป็นระยะเวลานานพอที่จะทำความรู้จักแต่ละคนอย่างละเอียดถึงสถานภาพทางสังคมของพวกเขา
อันจะทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่า
เหตุใดเขาจึงแสดงบทบาทเช่นนั้นออกมา
การอยู่ร่วมพร้อม ๆ
กับการศึกษาและเก็บข้อมูลนี้เองที่เรียกว่า
"การสังเกตแบบมีส่วนร่วม"
(participant observation) อนึ่ง
ประโยชน์ของการฝังตัวอยู่ร่วมกับกลุ่มประชากรที่ศึกษาเป็นระยะเวลานานจนได้รับการยอมรับว่าเป็นสมชิกคนหนึ่งของกลุ่มหรือสังคมนั้น
ๆ
ก็เพื่อลดความระแวงสงสัยและความไม่ไว้ใจอันเนื่องจากผู้วิจัยเป็น
"คนภายนอก" ลงได้มาก
นอกจากนี้
การเข้าไปอยู่ร่วมนาน ๆ
ก็เพื่อจะดูว่ากลุ่มประชากรนั้นคิดและแสดงพฤติกรรมนั้นบนรากฐานของเหตุและผลในบริบทของพวกเขาอย่างไร
นักมานุษยวิทยาเรียกว่า emic
หรือระบบแนวคิด
ความเชื่อของกลุ่ม/ชนที่เราไปศึกษา
ซึ่งจะแตกต่างจากคำว่า etic
หรือระบบแนวคิด หรือกรอบ/ทฤษฎีที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของวัฒนธรรมของคนภายนอกหรือจากตัวผู้วิจัย
ซึ่งมาจากต่างถิ่นและนำเอากรอบ/ทฤษฎี/ค่านิยมนั้น
ๆ
ไปเป็นเครื่องมือตรวจสอบพฤติกรรม/ความสัมพันธ์/วัฒนธรรมของชนที่กำลังศึกษา
ในกรณีหลังนี้อาจทำให้ข้อมูลที่ได้รับไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมให้ได้รับข้อเท็จจริงนั้น
นักมานุษยวิทยาจะต้องเรียนรู้ภาษาของชนที่ไปศึกษาและจะต้องปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต/ความคิดความเชื่อของชนกลุ่มนั้นอย่างเคร่งครัด
หากเกิดข้อสงสัยใด ๆ
ในการกระทำ/ความสัมพันธ์/วัฒนธรรมใด
ๆ จะต้องไต่ถาม และ/หรือเฝ้าสังเกตประเด็นที่สงสัยหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้องแน่นอนตามบริบทของผู้ถูกศึกษา
|