บทที่ 16 มานุษยวิทยาปฏิบัติการ  >> หน้า 4

 

                (4)                นักมานุษยวิทยาปฏิบัติการได้เปลี่ยนบทบาทจากการเป็น "ผู้ให้คำปรึกษา" ดังเช่นในอดีตที่ซึ่งเคยถือว่านักมานุษยวิทยาเป็นผู้รู้จักปัญหาและสถานการณ์เกี่ยวกับคนและสังคมวัฒนธรรมดีที่สุด และทำหน้าที่ในการป้อนข้อมูลให้กับผู้บริหารใช้ในการตัดสินใจนั้น มาเป็น "ผู้ทำหน้าที่ตัดสินใจ" (decision - makers) ด้วยตัวเอง หรือ "เข้าร่วม" (participate) ในกิจกรรมการตัดสินใจ จะเห็นได้ว่า เป็นการเปลี่ยนบทบาทครั้งสำคัญที่สุดเพื่อให้นักมานุษยวิทยาแสดงบทบาทใหม่จากการเป็นเพียงตัวแทนทางวัฒนธรรม (cultural broker) มาเป็นผู้บริหาร (administrator) และผู้กระทำจริง (advocative-actor)(4)

 

การประยุกต์ใช้สาขามานุษยวิทยากายภาพ

 

                โครงสร้างทางสรีระและพฤติกรรมของมนุษย์เป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาสาขาวิชามานุษยวิทยากายภาพ ซึ่งสามารถที่จะนำไปใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพประเภทอื่น ในที่นี้ ขอยกตัวอย่างเพียงบางตัวอย่างดังนี้

 

1.  การวัดสัดส่วนมนุษย์ (anthropometry)(5)

                ในแง่ของโครงสร้างทางสรีระนั้น มีการวัดสัดส่วนของมนุษย์แต่ละเผ่าพันธุ์เพื่อหาขนาดเฉลี่ยในการตัดเย็บเสื้อผ้า รองเท้า ม้านั่ง โต๊ะ จักรยานยนต์  และที่นั่งขับเครื่องบิน ตลอดจนเครื่องใช้ในบ้านและโรงงานให้เหมาะสมกับขนาดร่างกายของคนในแต่ละสังคม ในขณะเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ ได้ใช้ความรู้ทางมานุษยวิทยากายภาพศึกษาเกี่ยวกับนิสัย ความรู้สึก และทัศนคติของคนเพื่อนำไปใช้ในการสร้างขนาดและสีของเม็ดยา

                อนึ่งนักมานุษยวิทยากายภาพบางคนสนใจศึกษาองค์ประกอบทางร่างกายของมนุษย์และหาความสัมพันธ์ระหว่างรูปร่างของมนุษย์กับโรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง และขนาดรูปร่างของมนุษย์กับบุคลิกภาพเพื่อประโยชน์ต่องานเฉพาะอย่าง เป็นต้น