บทที่15  นักมานุษยวิทยาและผลงาน  >> หน้า 12

 

                นอกจากคน/สำนักดังกล่าวข้างต้น ในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เช่น เกษตรศาสตร์ มหิดล พายัพ สงขลานครินทร์ และขอนแก่นต่างก็มีบุคลากรและผลิตผลงานในสาขานี้เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน   อนึ่ง สำนักงานบริการข้อมูลภาษาและวัฒนธรรมทางเอเชียอาร์คเนย์ แห่งสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล-วิทยาเขตศาลายาได้ให้ความสนใจศึกษาสังคมวัฒนธรรมในขอบเขตที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สถาบันแห่งนี้ยังได้เปิดสอนชั้นปริญญาโททางด้านวัฒนธรรมศึกษา โดยแยกออกเป็น 3 สาขาคือ การดนตรี สาธารณสุข และพิพิธภัณฑ์และการอนุรักษ์วัสดุทางวัฒนธรรม (ชาติพันธุ์ศึกษา) ส่วนสถาบันวิจัยประชากรและสังคมแห่งมหาวิทยาลัยมหิดลก็ได้เปิดสอนระดับปริญญาโทสาขามานุษยวิทยาประยุกต์

                เมื่อพิจารณาถึงจำนวนสถานศึกษา บุคลากร และผลงานด้านมานุษยวิทยาในประเทศไทยแล้ว จะเห็นได้ว่า ปริมาณและขนาดของการศึกษาได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา  อย่างไรก็ตาม ดร.จาค อัมโยต์ นักมานุษยวิทยาชาวแคนาดา ผู้ซึ่งเข้ามาทำงานโดยเป็นผู้บุกเบิกการสอนการวิจัยในสาขาวิชานี้ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสถาบันวิจัยสังคม ได้ให้ทรรศนะว่า แม้ว่าไทยจะผลิตบุคลากรและผลงานทางด้านมานุษยวิทยาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมากมายก็ตาม แต่ผลงานที่ผลิตขึ้นยังมีลักษณะเป็นเพียงการเสนอข้อมูลพื้นฐาน กล่าวคือ นักมานุษยวิทยาไทยยังไม่ได้พัฒนาในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลให้ลุ่มลึก จนบรรลุถึงขั้นคุณภาพดีเยี่ยมเลย

                ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงมีความเห็นว่า น่าจะเป็นหน้าที่ของอนุชนรุ่นนี้และรุ่นหลังที่จะทำการศึกษาและผลิตผลงานที่มีคุณภาพดีเด่นให้แก่วงวิชาการต่อไป