บทที่ 13   ความเชื่อ ศาสนาและการควบคุมทางสังคม >> หน้า 16

 

                การที่จะเป็นคนทรงประเภทวิญญาณแต่งตั้งนั้นจะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน โดยปกติแล้วคน ๆ นั้นจะต้องเจ็บป่วยทุกข์ทรมานมานาน จากนั้น ก็จะพบกับสิ่งประหลาดหลายอย่างในขณะที่เจ็บป่วย ต่อมา วิญญาณก็จะเลือกให้เป็นคนทรง แล้วผู้นั้นก็จะหายเป็นปกติ นอกจากนี้ คน ๆ นั้นจะต้องผ่านการฝึกหัดจากคนทรงที่มีประสบการณ์ก่อนที่จะกลายมาเป็นคนทรงสมบูรณ์

                ปัจจุบัน ความเชื่อถือในเรื่องวิญญาณลดน้อยลงมากเพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองและประกอบอาชีพในด้านธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งต้องยึดถือหลักเหตุและผลตามกฎวิทยาศาสตร์ ดังนั้น บทบาทของคนทรงจึงมีไม่มากนัก ยกเว้นเราอาจจะพบเห็นในงานพิธีประจำชาติ และในชนบทเท่านั้น ส่วนคนรุ่นใหม่จะมองพิธีกรรมของลัทธิคนทรงในแง่ของการสันทนาการ เพราะมีการร้องรำในแบบโบราณ และคนทรงจะสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันสวยงาม อันเป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของชาติ

                อย่างไรก็ตาม นักวิชาการเกาหลีหลายท่านให้ทรรศนะว่า ลัทธิคนทรงน่าจะเป็นรากฐานของความรู้สึกนึกคิดของคนเกาหลี มากกว่าจะมีรากฐานมาจากศาสนาพุทธ คริสต์ หรือขงจื้อ ทั้งนี้ ศาสนาหลักเหล่านั้นเป็นความเชื่อที่มาจากต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การค้นคว้าหาคำตอบเกี่ยวกับลัทธิคนทรงจึงได้กระทำกันอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อจะค้นหาว่า ระบบความคิดความเชื่อของคนเกาหลีมาจากไหน และเป็นอย่างไร นั่นเอง3

 

2.  หลักลัทธิคำสอน

                หลักคำสอนซึ่งถ่ายทอดจากปากต่อปากนั้นเป็นเสมือนกฎหมายในการป้องกันและปราบปราบความประพฤติของสมาชิก รวมทั้งเป็นแนวทางให้คนปฏิบัติตาม ได้แก่

                (1)                ลัทธิการถือผี และวิญญาณ ลัทธินี้เชื่อว่าทุกชีวิตเกิดขึ้นเพราะวิญญาณ ดังนั้น จึงเชื่อถือผี วิญญาณ ภูติผี และอำนาจเหนือธรรมชาติ รวมทั้งยอมรับว่าสิ่งมีชีวิตจะยังคงปรากฏ

อยู่ภายหลังที่คน ๆ นั้นเสียชีวิตไปแล้ว ลัทธินี้ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Animism 

                (2)                ลัทธิที่เชื่ออำนาจลึกลับ เป็นความเชื่อเรื่องอำนาจนอกเหนือธรรมชาติ อาทิเช่น ชาวเกาะมาเลนีเซียมีความเชื่ออำนาจลึกลับที่สิงอยู่ในร่างมนุษย์ หรือสัตว์ หรือสถานที่บางแห่ง เป็นอำนาจที่มองไม่เห็นตัว ดังเช่น ไฟฟ้า ซึ่งอำนาจนี้อาจโผล่ไปยังที่หนึ่งและเปลี่ยนไปยังที่อีกแห่งหนึ่งได้ อำนาจประเภทนี้สามารถรักษาไว้และถ่ายทอดไปให้อีกผู้หนึ่งได้ อนึ่ง อำนาจชนิดนี้สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมาและสามารถควบคุมบางสิ่งไม่ให้เกิดขึ้นได้