บทที่13   ความเชื่อ ศาสนาและการควบคุมทางสังคม >> หน้า 7

 

                (4)                ไก่หรือหมู เครื่องเซ่นบูชาผีของเย้ามีไก่และหมู ฆ่าให้ตาย ทำความสะอาดภายนอกภายในเรียบร้อยวางไว้บนโต๊ะพิธี ไก่หรือหมูนี้เมื่อเสร็จพิธีแล้วจะนำมาปรุงเป็นอาหารรับประทานกัน โดยทางความนิยมของเขาแล้วถ้าใช้ไก่ ผู้เคราะห์ร้ายหรือเจ้าของพิธีต้องเป็นผู้รับประทานไข่ไก่เสมอไป หมอผีจะเป็นผู้รับประทานหัวไก่คนอื่นห้ามเด็ดขาด

                นอกจากนี้ อุปกรณ์เครื่องเซ่นก็มีข้าวสารจำนวนหนึ่งห่อด้วยผ้าแดงหรือผ้าขาว กระ บอกไม้ไผ่ตัดสั้น ๆ บรรจุถ่านไฟที่กำลังติดไฟอยู่ สิ่งของเครื่องเซ่นทั้งหมดนี้ใส่จัดวางไว้บนโต๊ะ หรือถ้าไม่มีโต๊ะก็วางบนใบกล้วยซึ่งปูบนดิน

                อนึ่ง  ยังมีข้าวสารอีกอย่างหนึ่งเพื่อต้องการให้ผีปู่  ย่า  ตา  ยาย  ที่หมอผีเชิญมาช่วยเรียกขวัญได้รับ  ส่วนอาหารเป็นเครื่องหมายให้นำเอาข้าวสารไปเพื่อหุงหาอาหารเอาเอง ส่วนกระดาษเงินนั้นผีก็อาจใช้ซื้ออาหารเอาเองก็ได้

                การเรียกขวัญมักกระทำกันไม่เลือกกาลเวลา อาจเป็นเช้าตรู่ ตอนสายหรือตอนบ่าย เย็น ค่ำ ก็ได้แล้วแต่สะดวก บางรายตอนสาย ๆ จับไก่ไม่ได้เพราะปล่อยออกจากเล้าไปหมดตั้งแต่ตอนเช้า และโดยปกติไก่ของชาวเขามักหากินกันอยู่ในป่าชายหมู่บ้านยากแก่การตามจับ กว่าจะหาไก่ได้ก็อาจเป็นตอนบ่ายหรือตอนเย็น

                เมื่อได้เครื่องเซ่นบูชามาพร้อมแล้ว หมอผีจะนั่งลงหน้าเครื่องบูชาเอาไม้คู่เคาะกันก่อน 2 ครั้ง  แล้ววางลงหน้าเครื่องบูชาบนโต๊ะหรือกลางดิน ก็เป็นอันว่าเริ่มพิธีเรียกขวัญ ต่อจากนั้นไปหมอผีก็จะไล่คาถาเชิญผีครูของตนมาช่วยตนก่อน โดยเชื้อเชิญให้มาบอกกล่าวถึงความประสงค์ ไปรินเหล้าลงในจอกแก้วทั่ว ๆ กันทั้ง 6 ใบ แล้วโยนไม้คู่ ไม้คู่นี้เขาทำเหมือนเขาควายผ่าซีก มีด้านหงายด้านคว่ำ เมื่อโยนไปแล้วและขึ้นตามกฎถึงจะแสดงว่าผีมาเข้าแล้ว การโยนไม้คู่นี้เขาจะโยน 3 ครั้ง และจะต้องให้ขึ้นตามกฎที่กล่าวมา ถ้ายังไม่ขึ้นดังกฎที่กล่าวมาก็ต้องร่ายคาถาไปใหม่ รินเหล้าเติมอีกและโยนไม้คู่อีกจนกว่าไม้คู่จะขึ้นตามที่กำหนดไว้ ต่อจากนั้นก็กล่าวอัญเชิญผีปู่ ย่า ตา ยาย ของผู้เคราะห์ร้ายให้มาช่วยกันเรียกขวัญกลับเข้าสู่ร่างกาย จะรู้ว่าผีมาแล้วหรือยังก็ดูได้จากการโยนไม้คู่อีกตามเคย เอาเป็นว่าผีทั้งสองประเภทมาพร้อมกันแล้ว หมอผีก็จะร่ายคาถาอัญเชิญผีทั้งสองประเภทให้ช่วยกันเรียกขวัญให้กลับมาสู่ร่างกาย ขวัญจะมาไม่มาก็รู้ได้จากการโยนไม้คู่อีกเช่นกัน ถ้าไม้คู่บอกว่ามาแล้ว หมอผีจะหันซ้ายหันขวามองหาขวัญตามพื้นดินเพราะถือว่าขวัญมาในรูปแมลง บางที่จับได้แมลงหลายตัวแต่ไม่เอา มดก็ไม่เอา นิยมเอาแมลงชนิดหนึ่งตัวเล็กลีบ ๆ ขายาว ๆ เมื่อจับได้แล้วจะบี้ให้ตายแล้วางลงบนไม้คู่ข้างหนึ่งซึ่งหงายอยู่เอาไม้อีกซีกหนึ่งกดลงไปบนตัวแมลง ปากก็ร่ายคาถามือก็หมุนไว้เป็นวงกลม ๆ เป็นการชุบชีวิตขวัญให้คืนร่างมาเป็นรูปคนจะได้กลับเข้าสู่ร่างคนได้ คาถาที่ร่ายทำนองการชุบชีวิตนี้ก็กล่าวถึงตั้งแต่ศีรษะลงไปจนถึงเท้า จนในที่สุดขวัญก็เข้าสู่ร่างกายของผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งเราสามารถรู้ได้จากการโยนไม้คู่อีกตามเคย ต่อจากนั้นหมอผีก็จะทำเป็นเอาขวัญห่อด้วยกระดาษเงินแล้วส่งให้ผู้เคราะห์ร้ายเก็บเอาไว้ให้ดีเพราะถือว่าเป็นขวัญ นัยว่าให้เก็บไว้ใกล้ที่นอน