ในการร่ายคาถาเชื้อเชิญผีทั้งสองมาร่วมพิธีนั้น
นอกจากการรินเหล้าถวายแล้วยังต้องนับกระดาษเงินวางลงบนพื้นอีกด้วยก่อนที่จะโยนไม้คู่
บางคราวผีไม่มาง่าย ๆ
ต้องวางกระดาษเงินลงมาก ๆ
จนกระดาษที่เตรียมมาไม่พอก็มี
ต้องวิ่งวุ่นหามาเพิ่ม
บางครั้งพิธีทำไกลหมู่บ้านเช่นในไร่
ต้องมีคนวิ่งกลับมาเอากระดาษเงินที่หมู่บ้านก็มี
เมื่อขวัญมาแล้วและกลับเข้าสู่ร่างของคนแล้วก็เป็นอันจบพิธีด้วยการเผากระดาษเงินทั้งหมด
และร่ายคาถาอัญเชิญผีกินเครื่องเซ่นก่อนเดินทางกลับ
เมื่อเสร็จพิธีร้องขวัญอันเป็นตัวพิธีแล้ว
ไก่จะถูกนำมาปรุงเป็นอาหารและร่วมวงรับประทานอาหารกัน
ก่อนดื่มสุราหมอผีจะกล่าวคาถาอันเป็นเครื่องหมายสวัสดิมงคลแก่เจ้าของพิธีเล็กน้อยแล้วก็นำเอาแก้วเหล้าไปส่งให้แก่ทุก
ๆ คนที่นั่งรวมวง
ปากก็กล่าวอวยพรคนที่รับถ้วยแก้วจะนำไปจรดกับแก้วของตนครั้งหนึ่ง
หรือรินสุราลงในแก้วของตนนิดหนึ่งก็ได้แล้วส่งคืนถ้วยแก้วของตนเป็นการตอบแทนบ้าง
ผู้รับก็จะปฏิบัติทำนองเดียวกัน
การอวยพรแบบนี้จะกระทำผลัดเปลี่ยนกันจนถ้วนทั่วทุก
ๆ คน
จึงจะเริ่มดื่มสุราและรับประทานอาหาร
ตามปกติจะดื่มสุรากินกับแกล้มไปพลางคุยกันไปพลางจนพอสมควรแล้ว
จึงจะรับประทานข้าวกัน
ในขณะรับประทานหมอผีจะกินหัวไก่และฉีกหัวไก่ออกเป็นชิ้นเพื่อตรวจดูกระดูกบางชิ้น
ซึ่งสามารถทำนายถึงอนาคตความสุขสบายและเคราะห์ดีหรือไม่ดีของเจ้าของพิธีได้ด้วย
นอกจากพิธีการดังได้กล่าวมาแล้ว
ยังมีข้อปลีกย่อยอีกเล็ก ๆ
น้อย ๆ ทำบ้างไม่ทำบ้าง
อาทิเช่น
การเจิมหน้าผากด้วยดินหม้อหรือถ่านไฟ
โดยการขีดเป็นรูปกากบาทบ้าง
เป็นเครื่องหมายดิลกอย่างของอินเดียบ้าง
บางคนเจิมแต้มเดียว
บางคนก็เจิม 3 แต้ม
เรียงเป็นแถวตามเส้นนอนก็มี
เรียงเป็นรูปจั่วก็มี
แต่ที่นิยมกันมากก็คือเจิมเป็นรูปกากบาท
|