บทที่12  พฤติกรรมทางการเมืองและการควบคุมทางสังคม  >> หน้า 9

 

4.รัฐกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง

                จริงอยู่ ที่ความสนใจของนักมานุษยวิทยามักจะเน้นศึกษาระบบการเมืองของสังคมเล็ก ๆ ตั้งอยู่โดดเดียวและมีความสมบูรณ์ในตัวแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบัน สังคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สังคมเล็ก ๆ ต่างรวมเข้าเป็นรัฐใหญ่ อำนาจทางการเมืองได้เพิ่มความสลับซับซ้อน องค์ประกอบทางด้านการเมืองได้เพิ่มจำนวนและมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น สำหรับกิจกรรมทางการเมืองของรัฐใหม่ในประเทศกำลังพัฒนายังอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์กับระบบประเพณีนิยมมาก ปรากฏการณ์ทางการเมืองเช่นนี้เป็นข้อมูลที่สำคัญที่นักมานุษยวิทยาทำการศึกษาค้นคว้าและวิเคราะห์ ปัญหาที่น่าสนใจคือคนมีความเข้าใจต่อความหมายเกี่ยวกับ "รัฐ" มากน้อยแค่ไหน รัฐสมัยใหม่รวมเอาคนในสังคมเล็ก ๆ ซึ่งเคยมีความรู้สึกผูกพันกับการเมืองดั้งเดิมได้อย่างไร บทบาทของผู้นำทางการเมืองต่อการเมืองการปกครองใน "รัฐใหม่" เป็นอย่างไร คำถามเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญต่อการศึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงจากระบบเดิมมาสู่ระบบใหม่ แต่ยังอยู่ในภาวะครึ่ง ๆ กลาง ๆ ด้วยเหตุนี้บทบาทของนักมานุษยวิทยาจึงมีความสำคัญในการศึกษาปรากฏการณ์ทางสังคมประเภทเหล่านี้

 

อำนาจและการควบคุมทางสังคม

(Authority and social control)

                ไม่ว่าการตัดสินใจของรัฐจะอยู่ในมือของหัวหน้าเผ่า พระมหากษัตริย์ คณะผู้อาวุโส ของเผ่าหรือผู้แทนที่ได้รับเลือกอย่างเป็นทางการเพื่อให้ทำหน้าที่ปกครอง อำนาจแห่งการปกครองจะต้องมีอยู่ อำนาจดังกล่าวอาจได้มาด้วยการปฏิวัติการถ่ายทอดไปสู่หัวหน้าคนใหม่หรือเปลี่ยนคนโดยการเลือกตั้งก็ตาม อำนาจนั้นจะต้องมีผลในการบังคับเพื่อให้คนอื่นปฏิบัติตามกฎข้องบังคับของสังคม ลูซี แมร์ นักมานุษยวิทยาชาวอังกฤษ ได้กล่าวเสริมว่า ไม่มีสังคมไหนที่กฎหมายจะได้รับการปฏิบัติตามทั่วทุกคน ฉะนั้นจึงต้องมีการรักษาไว้ซึ่งความสันติสุขของผู้ปฎิบัติตามกฎหมายและลงโทษผู้กระทำผิด บทลงโทษผู้กระทำผิดอาจแตกต่างและแยกย่อยออกไปตามอัตราของการประพฤติผิดจากกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ บทลงโทษนี้อาจะมีทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งแยกได้ดังนี้