ในสังคมดั้งเดิมและสังคมที่กำลังพัฒนา
อิทธิพลของลัทธิความเชื่อ
นิยายหรือนิทานที่กล่าวถึงการกำเนิดของชุมชนและเชื้อสายของผู้ปกครอง
และพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับอำนาจนอกเหนือธรรมชาติมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับพฤติกรรมของสมาชิกของสังคมนั้น
ๆ ด้วยเหตุนี้
การยอมรับอำนาจโดยประเพณีนิยม
(traditional authority) และโดยบารมีนิยม (charismatic
authority)
จึงมีลักษณะเด่นกว่าอำนาจที่มาจากหลักตรรก
- นิตินัย (rational - legal authority)
นอกจากนี้นักมานุษยวิทยายังให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการจินตนาการเป็นรูปร่าง
(personification) เช่น ผี
และสนใจในเรื่องบทบาทของตัวแทน
เช่น พระ พ่อมด หมอผี
กษัตริย์ นักบวช
หัวหน้าเผ่าหรือชุมชน
ตลอดจนครูอาจารย์
ซึ่งมีความสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์
คำถามที่น่าสนใจก็คือตัวแทนดังกล่าวมีอิทธิพลต่อความคิด
ความเชื่อ
ทัศนคติของคนในสังคมนั้นอย่างไร
ในขณะเดียวกันนิยายปรัมปรา
(myth)
ที่เกี่ยวกับการกำเนิดชุมชน
และการสืบเชื้อสายของคนในแต่ละสกุล
ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับเทือกเขาเหล่ากอ
(clan)
ของคนและความเชื่อที่ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาสิงสถิตย์อยู่ที่ก้อนหิน
หรือสัตว์จำพวกหนึ่งหรือต้นไม้ชนิดหนึ่ง
(totem)
ก็ได้รับความสนใจเป็นพิเศษเช่นกัน
อิทธิพลของความเชื่อดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของคนในสังคมมาก
ไม่เฉพาะแต่ศาสนาระดับชาวบ้านเท่านั้น
นักมานุษยวิทยายังได้ให้ความสนใจต่อศาสนาสำคัญ
ๆ ของโลกด้วย
ทั้งในด้านคำสอนและวิธีประพฤติปฏิบัติของคนทั้งสังคม
เช่น ศาสนาพุทธ
ศาสนาอิสลาม เป็นต้น
บทบาทของนักบวชทั้งก่อนและหลังการปฏิรูปทางศาสนาครั้งสำคัญ
ๆ
มีอิทธิพลต่อความคิดและทัศนคติของคนในระดับต่าง
ๆ กัน
ความสนใจของนักมานุษยวิทยาจึงได้มุ่งถึงอำนาจของนักบวชดังกล่าว
อนึ่ง
ความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาสำคัญ
ๆ
กับลัทธิความเชื่อของชาวบ้าน
เช่น
พุทธศาสนากับความเชื่อเกี่ยวกับแอนนิมิสซึม
(animism)
หรือความเชื่อว่าของทุกสิ่งมีวิญญาณ
ก็มีความสำคัญต่อการศึกษาทางด้านการเมืองด้วยเช่นกัน
|