ระบบเครือญาตินี้เองที่เป็นบ่อเกิดของการสืบมรดกทั้งในด้านทรัพย์สิน
และอำนาจทางการเมือง
การสืบต่ออำนาจของ "ทายาท"
ดังเช่นระบบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
นอกจากนี้
ผู้อ่านคงจะพบเห็นเสมอว่า
ผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มหนึ่งมักจะมีบิดาที่เคยเป็นหัวหน้ามาก่อน
เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ตลอดจนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
และประธานาธิบดีของบางสังคม
รัศมีหรืออิทธิพลของความเป็นผู้นำทางสังคมมักจะมีผลให้สมาชิกในครอบครัวและวงศ์ญาติของเขามีสถานภาพสูงไปด้วย
ซึ่งจะก่อให้เกิดเป็นชนชั้นปกครอง
(ruling class) ขึ้น
หากจะมองอีกในแง่หนึ่ง
ความสัมพันธ์ของคนที่อยู่ในชนชั้นนี้มักจะมีความผูกพันต่อกันอย่างแน่นแฟ้น
มีการแต่งงานกันในหมู่พวกเดียวกัน
อันเป็นการปกป้องฐานะทางเศรษฐกิจและการเมืองเอาไว้
ยากที่คนในสายตระกูลอื่นจะแหวกทะลุได้
ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ทางด้านเครือญาติจึงมีความสำคัญในการศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองอย่างยิ่ง
2.การแบ่งชั้นทางสังคมกับอำนาจ
การแบ่งชั้นทางสังคมเป็นวิธีการของนักสังคมศาสตร์ที่แบ่งคนในสังคมหนึ่งให้แตกต่างกันออกไป
ซึ่งอาจเป็นไปในแง่ของความสูงต่ำหรือเท่าเทียมกันในด้านเศรษฐกิจ
การเมืองและสถานภาพของสังคม
การแบ่งชั้นของคนเป็นลักษณะทางวัฒนธรรม
ซึ่งค่านิยมและความเชื่อของคนกลุ่มนั้นได้กำหนดกันขึ้น
เพื่อเป็นข้อกำหนดของการแบ่งงานกันทำ
และเป็นกลไกอันหนึ่งในการปกป้องตนและเสริมสร้างอำนาจให้แก่ตน(3)
ในทุกสังคม เราจะเห็นว่า
อำนาจมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับลำดับความสูงต่ำของคนในสังคม
ทั้งนี้เพราะความไม่เท่าเทียมกันในสังคมก่อให้เกิดการใช้อำนาจ
และอำนาจอันชอบธรรม
ระหว่างผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้การปกครอง
ในขณะเดียวกัน
ความไม่เท่าเทียมกันทำให้เกิดการมีสิทธิพิเศษ
และข้อบังคับหรือความจำเป็นที่จะต้องกระทำตามภายใต้หน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตาม
|