บทที่9  ระบบเศรษฐกิจเทคโนโลยีและสภาพนิเวศ >> หน้า 1

AN113


บทที่ 9
ระบบเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและสภาพนิเวศ

                 สังคมไทยในปัจจุบันแบบแผนการทำมาหาเลี้ยงชีพของแต่ละภูมิภาคแต่ละท้องถิ่นมีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามระดับเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตและสภาพนิเวศ ยังผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวคนกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก โดยแต่เดิมนั้น คนไทยและคนเอเชียทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรไม่ถือว่า "ที่ดิน" เป็นเศรษฐทรัพย์แต่ถือว่าที่ทำกินที่ใช้ในการเพาะปลูกเป็นส่วนหนึ่งของระบบวัฒนธรรมที่ก่อให้เกิดความเคารพรักและหวงแหน ทะนุถนอมเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากที่ดินเป็นระยะเวลายาวนาน ดังนั้น ความสัมพันธ์ของคนที่มีต่อที่ดินจึงมักเป็นไปในรูปของการให้ความเคารพ โดยยกย่องว่าเป็น "พระแม่ธรณี" และร่วมกันสร้างประเพณี ทำพิธีบวงสรวง และกล่าวคำขอขมาหากการ กระทำของตนจะเป็นอันตรายต่อพื้นดิน อาทิเช่น มีพิธีแรกนา พิธีขอขมาต่อฟ้าดิน และมีการตั้งข้อห้ามมิให้สบถสาบานต่อฟ้าดิน เป็นต้น อนึ่ง หากจะมีการยกย่องบุคคลที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดทางสังคม ก็จะมีการพาดพิงถึงดิน เช่น พระเจ้าแผ่นดิน อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า คนไทยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสภาพแวดล้อมจนยากที่จะแยกคนออกจากที่ดินได้(1)

                 เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ที่เอื้ออาทรระหว่างคนกับดินก็เปลี่ยนไปด้วยเมื่อคนเล็งเห็นว่าที่ดินเป็นเศรษฐทรัพย์ จึงมีการใช้ที่ดินทำกินที่มุ่งหวังจะได้รับประโยชน์สูงสุด ดังเช่น การศึกษาของไมเคิล คาราแวน นักมานุษยวิทยาชาวอเมริกันพบว่า การปลูกพืชหมุนเวียนที่หมู่บ้านสันทราย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่นั้น ในหน้าฝนชาวบ้านจะปลูกข้าวตามกรรมวิธีที่เรียกว่า นาดำ หลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวแล้วก็จะปลูกกระเทียม แตงโม หรือยาสูบ หรือบ้างก็ปลูกถั่วลิสงในที่นาผืนเดียวกัน วิธีการปลูกจะมีการใช้แรงงานและมีความร่วมมือกับเพื่อนบ้านที่มีลักษณะแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช อย่างไรก็ตาม ในการเพาะปลูกมิได้ปล่อยที่ดินให้ว่างเพื่อการฟื้นตัวเลย(2)