นั่นหมายความว่า
วิชามานุษยวิทยาวัฒนธรรมได้รวมเอาสาขาวิชาอีก
5
สาขาเป็นส่วนย่อยของวิชานี้ด้วย
(ดูหนังสือเรื่องมานุษยวิทยาวัฒนธรรมที่เขียนขึ้นโดยชาวอเมริกัน
จะมีการจัดแบ่งสาขาออกตามแผนภูมิที่เพิ่งแสดงนี้
ทั้ง ๆ ที่นักโบราณคดี
และนักมานุษยวิทยาสังคมอาจไม่เห็นด้วยกับการจำแนกสาขาวิชาดังกล่าว)
เมื่อมีความเห็นพ้องต้องกันในหมู่นักวิชาการกลุ่มนี้ว่าวัฒนธรรมคือพฤติกรรมทุกอย่างทุกประเภทที่คนในสังคมแสดงออกอันเป็นผลมาจากการเรียนรู้
และสามารถจำแนกออกเป็นแบบแผนแห่งพฤติกรรมแต่ละประเภท
รวมทั้งถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ว่านี้ไปยังอนุชนรุ่นหลังด้วย
ดังนั้น
กระบวนการค้นหาวัฒนธรรมของสังคมประเภทต่าง
ๆ เพื่อพิสูจน์
"ลำดับขั้น"
ของวัฒนธรรมจึงบังเกิดขึ้น
โดยเน้นการสานต่อวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ปรากฏหลงเหลืออยู่ในท้องถิ่นห่างไกล
ทุรกันดาร
และสังคมโดดเดี่ยว
เพื่อตรวจสอบหา "แบบแผน"
ของพฤติกรรมแต่ละประเภท
ดังตัวอย่างเช่น มอร์แกนทุ่มเทกำลังกายกำลังใจศึกษาวิเคราะห์วัฒนธรรมของชาวอินเดียนแดงเผ่าอิรอข่อยโดยเน้นพิจารณาในแง่การทำมาหาเลี้ยงชีพ
โครงสร้างทางการเมือง
ภาษา ครอบครัว
ความเชื่อและศาสนา
ลีลาชีวิตที่อยู่ในครัวเรือน
ศิลปะและสถาปัตยกรรม
และการถือครองทรัพย์สิน
ส่วนไทเลอร์สนใจศึกษาเรื่องบ่อเกิดของศาสนา
ความเชื่อในภูตผี
และความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีตัวตน
ในขณะที่เฟรเซอร์เน้นศึกษาเรื่องไสยศาสตร์
เป็นต้น
ผลการศึกษาที่ได้รับก็นำมาใช้เป็นตัวอย่างเพื่อสนับสนุนทฤษฎีวิวัฒนาการ
โดยชี้ให้เห็นว่า "คนเถื่อน"
มีแบบแผนของวัฒนธรรมแตกต่างจาก
"คนดั้งเดิม" และ "คนมีอารยธรรม"
อย่างไร หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ
เป็นความพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงลำดับขั้นของวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมจากขั้นต้น
เป็นขั้นกลาง
และเป็นขั้นสูงไปในที่สุด
|