สำหรับวิชามานุษยวิทยาในประเทศไทยของเรานั้น
จากหลักฐานที่ค้นพบแสดงให้เห็นว่า
คนไทยให้ความสนใจศึกษาวัฒนธรรมและสังคมของชนชาติอื่น
ทั้งที่ตั้งอยู่ในแถบสุวรรณภูมิและทั่วโลกมาเป็นเวลาช้านานแล้ว
ดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ที่ไทยติดต่อเกี่ยวข้องกับต่างชาติต่างภาษา
เช่น เปอร์เซีย ญี่ปุ่น
ฮอลันดา ปอร์ตุเกต อังกฤษ
ฝรั่งเศส ฯลฯ
และชนต่างเผ่าในแถบเอเชียอาคเนย์
เช่น ขมุ ละว้า กะเหรี่ยง
เย้า ฉาน กะฉิ่น พม่า ลาว
เขมร อินโดนีเซีย ฯลฯ
ทำให้เกิดความต้องการที่จะเรียนรู้สังคมและวัฒนธรรมของพวกเขา
ผลการศึกษาได้ปรากฏแพร่หลายในรูปนิทาน
พงศาวดาร ศิลาจารึก
เป็นต้น ต่อมา
เมื่อมีการศึกษา "องค์ความรู้ทางด้านมานุษยวิทยา"
ที่คิดค้นขึ้นโดยพวกฝรั่ง
นักมานุษยวิทยาไทยส่วนใหญ่ก็นำแนวคิด
ทฤษฎี
และวิธีการศึกษามาใช้ในการศึกษาสังคมไทย
และสังคมของชนกลุ่มน้อยที่อยู่ในประเทศไทย
เช่น ชาวเขา และเงาะซาไก
ปัจจุบัน
ผลงานที่เกี่ยวกับสังคมวัฒนธรรมไทยมีอยู่มากมาย
ซึ่งสามารถหาอ่าน/ศึกษาตามห้องสมุด
และศูนย์วิจัยในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ
ทำให้คนไทยในยุคนี้สามารถเข้าใจเรื่องราวสังคมและวัฒนธรรมของไทยและของเทศที่เป็นระบบตามระเบียบแบบแผนของการศึกษาวิชามานุษยวิทยาสากล
มานุษยวิทยาสังคม
นักวิชาการชาวอังกฤษจากมหาวิทยาลัยต่าง
ๆ ทั่วสหราชอาณาจักรจะเรียกตัวเองว่า
นักมานุษยวิทยาสังคม
อนึ่ง
เนื่องจากประเทศอังกฤษได้เปิดสอนสาขาวิชานี้มาช้านานและเป็นแหล่งให้การศึกษาแก่คนจากประเทศต่าง
ๆ
ในเครือจักรภพทุกประเทศเพื่อนำความรู้กลับไปสอนในสถานศึกษาในประเทศของตน
ทำให้นักวิชาการของประเทศเหล่านั้น
อาทิเช่น แคนาดา
ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
มาเลเซีย อินเดีย ศรีลังกา
และประเทศในทวีปแอฟริกา
ลาตินอเมริกา
รวมทั้งอเมริกาใต้
ตลอดจนบางส่วนของสหรัฐอเมริกาที่ผู้ที่จบการศึกษาจากประเทศอังกฤษ
และ
คนอังกฤษที่ย้ายไปสอนในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ
อีกทั้งนักวิชาการไทย
และญี่ปุ่นบางส่วนที่ได้รับการศึกษาจากประเทศอังกฤษ
จะเรียกตัวเองว่านักมานุษยวิทยาสังคมแทบทั้งสิ้น
ประวัติการก่อตั้งและการศึกษาวิชามานุษยวิทยาสังคมในสหราชอาณาจักรมีเรื่องราวที่น่าสนใจยิ่ง
กล่าวคือ
ในอดีตเมื่อมีการนำบันทึกและความรู้ที่คนท่องเที่ยวและ/หรือไปปกครองดินแดนอาณานิคมจากทั่วโลกมาจัดเป็นระบบ
|