บทที่ 6 สกุลโฮโม
สกุลโฮโมวิวัฒนาการต่อเรื่อยมา
โดยแยกออกจากสกุลออสตราโลพิธิคัสเมื่อราว
2 ล้านปีมาแล้ว
และถือกันว่าสกุลโฮโมนี้เป็นสกุลที่จะพัฒนาขั้นสูงขึ้นเป็นเช่นเราท่านในปัจจุบัน
แต่หลักฐานที่ค้นพบก่อให้เกิดความเชื่อที่แตกต่างกัน
จนไม่อาจชี้ชัดไปในแนวทางเดียวกันได้ว่า
สกุลโฮโมมีสายวิวัฒนาการเป็นลำดับจากจุดไหนอย่างไร จนถึงปัจจุบัน
มีข้อสันนิฐานที่แตกต่างกันถึง
9 ทฤษฎี เช่นทฤษฎีที่หนึ่งกล่าวว่า
สกุลโฮโมวิวัฒนาการต่อจาก
A. africanus มาเป็น A. robutus มาเป็น H. erectus
และเป็น H. sapiens ในที่สุด
ส่วนบางทฤษฎีอ้างว่า H.
sapiens น่าจะวิวัฒนาการจาก A.
aficanus เพราะ A. robustus
แยกสายออกไปต่างหาก(1)
ในหนังสือเล่มนี้
จะยึดแนวคิดของหลุยส์
ลีคกี้ ที่กล่าวว่า
สกุลโฮโมแยกตัวเองออกจากสกุลออสตราโลพิธิคัสโดยผ่านสาย
A. africanus กลายเป็นโฮโมขั้นต้น (Early
Homo) ที่เรียกว่า โฮโม
ฮาบิลิส (Homo
habilis) ซึ่งริชาร์ด ลีคกี้เป็นผู้ค้นพบเมื่อปี
คศ. 1972 จากนั้น
ก็วิวัฒนาการเป็นขั้นสูงขึ้น(2)
สกุลโฮโมจำแนกออกเป็น 2
สปิชี่ ได้แก่ (1) โฮโม อีเรคตัส
(Homo erectus) และ (2) โฮโม เซเปียนส์ (Homo
sapiens)
โฮโม
อีเรคตัส
ลักษณะทางร่ายกายของโฮโม
อีเรคตัสที่สำคัญ
ได้แก่ มีรูปร่างสูงขึ้น
มีขนาดหัวกะโหลกใหญ่
สามารถบรรจุมันสมองราว
775 - 1,225 ลบ.ซม. และเดินด้วยสองเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนลักษณะทางวัฒนธรรมนั้น
โฮโม อีเรคตัสสามารถสร้างเครื่องไม้เครื่องมือได้อย่างชำนิชำนาญเพื่อใช้ในการล่าสัตว์ขนาดใหญ่
อาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
และริเริ่มใช้ "ไฟ"
เป็นครั้งแรก
มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของโฮโม
อีเรคตัสในทวีปเอเชีย
ยุโรป และแอฟริกา
แต่ไม่พบในทวีปอเมริกาและออสเตรเลียเลย(3)
ดังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการค้นพบดังต่อไปนี้
|