ภายหลังที่ได้ทำการค้นคว้าทดลองเป็นเวลานานถึง
8 ปี เมนเดลได้เขียนรายงานการวิจัยและนำเสนอในที่ประชุมของ
Natural History Society of Brunn
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1865 แต่นักพฤกษศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมสัมมนาไม่ได้ลุกขึ้นถามคำถามแม้แต่คนเดียวและไม่มีการถกเถียงในหัวข้อที่เมนเดลบรรยายเลย
ทั้งนี้เพราะพวกเขาหล่านั้นยังยึดถือระเบียบวิธีการวิจัย
(การทดลอง) แบบเก่า
จึงเกิดความสับสนในวิธีการทดลองแบบใหม่ของเมนเดล อีกทั้งผลการทดลองที่กล่าวถึงการแตกตัวและการรวมตัวของคุณลักษณะ
(หรือยีน)
ทางพันธุกรรมของพ่อแม่ในลูกผสมรุ่นที่
1 และลูกรุ่นที่ 2
ซึ่งเป็นผลการวิจัยที่มีความแตกต่างจากความรู้ที่ใช้สอนกันในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา
เมื่อสมาคมแห่งนี้พิมพ์รายงานการวิจัยของเมนเดล
(ซึ่งเป็นประเพณีของสมาคมที่พิมพ์งานการวิจัยที่นำมาบรรยายในที่ประชุมเพื่อส่งไปเผยแพร่ยังสถาบันและนักวิทยาศาสตร์ทั่วยุโรป)
แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดให้ความสนใจในงานชิ้นนี้ของเมนเดล
ต่อมา
เขาได้ส่งผลงานไปให้นักพฤกษศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของยุโรปในยุคนั้น
ชื่อ คาร์ล วอน เนเกลี (Karl von
Naegeli)
แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจอีกเช่นกันเพราะผู้รับไม่เข้าใจในงานที่เมนเดลทำขึ้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจและผิดหวังเป็นอันมาก
ในปี ค.ศ. 1868 เมื่ออายุได้
46 ปี เขาก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าอาวาส งานในหน้าที่เจ้าอาวาสมีมาก
ทำให้เขาไม่มีเวลาทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่อไปได้อีก
เมนเดลเสียชีวิตในวันที่
6 มกราคม ค.ศ. 1884
ในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาสที่ผู้คนในเมืองบรุนน์ให้ความเคารพบูชา
แต่มิใช่ในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ค้นพบกฎทางพันธุกรรมที่สำคัญของโลก