บทที่3  หลักเกี่ยวกับการวิวัฒนาการ  >> หน้า 13


           อย่างไรก็ตาม การผ่าเหล่าจะเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก หรือในอัตราเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้น อนึ่ง การผ่าเหล่าจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการเลือกสรรทางธรรมชาติ กล่าวคือ เมื่อการผ่าเหล่าเกิดขึ้นในยีนแล้ว ยีนผ่าเหล่าใหม่นี้จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม หรือไม่ก็ต้องต่อสู้เพื่อให้คงรูปใหม่นั้น ๆ เมื่อยีนใหม่มีชีวิตรอดจากกระบวนการเลือกสรรทางธรรมชาตินี้ได้ ก็จะคงรูปใหม่และส่งผ่านรูปลักษณ์ชนิดใหม่ไปยังลูกหลาน อันจะก่อให้เกิดการวิวัฒนาการขึ้น

          การผ่าเหล่าหรือมิวเทชั่นเป็นพลังที่ทำให้เกิดเป็นพันธุ์ใหม่ (new species) ขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการแรกสุดที่จะก่อให้เกิดการวิวัฒนาการ แต่ชาลส์ ดาร์วินไม่ทราบถึงหลักมิวเทชั่นนี้ จนกระทั่งเวลาผ่านมาถึงตอนกลางของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ความลับในเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยขึ้นเมื่อนักวิทยาศาสตร์สามารถทำความเข้าใจในเรื่องโมเลกุลและการเปลี่ยนแปลงภายในยีน (ดูรายละเอียดเรื่องพันธุกรรมศาสตร์กับการวิวัฒนาการ ในบทถัดไป)

2. การเคลื่อนย้ายของยีนหรือไมเกรชั่น (migration)

           การเคลื่อนย้ายของยีนจากกลุ่มประชากรหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง จะยังผลให้ยีนไม่อาจจับคู่ได้เช่นเดียวกับช่วงเวลาก่อนการย้ายถิ่น และจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านความถี่ของยีน ตัวอย่างเช่น สมาชิก 4 คนของกลุ่มประชากรหนึ่งซึ่งมียีนเป็นกลุ่มเลือด M ย้ายถิ่นไปอยู่ที่อื่น และคนกลุ่มเลือด N ย้ายเข้ามาแทนที่ ทำให้โอกาสในการจับคู่ของยีนจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปตามความถี่ใหม่ที่เกิดขึ้น