ต่อมาเมื่อเกิดน้ำท่วมโลก
ผู้คนล้มตายจนเหลือเพียงชายหญิงคู่หนึ่งที่อพยพหนีน้ำมาอาศัยอยู่บนเทือกเขา
ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นบรรพบุรุษชาวเขาเผ่าเย้าในปัจจุบัน"(3)
เป็นต้น
ความเชื่อที่เพิ่งกล่าวถึงนี้เป็นสิ่งที่หยั่งรากฝังลึกลงไปในวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของคนเกือบทุกคนในสังคมนั้น
รวมทั้งได้มีการสร้างข้อบังคับมิให้สมาชิกเชื่อถือแนวความคิดอื่นใดที่แตกต่างไปจากคำตอบที่มีอยู่
และมีการกำหนดบทลงโทษอย่างรุนแรงหากผู้ใดฝ่าฝืน
หรือไม่ก็จะถูกเยาะเย้ยถากถางว่าเป็นคนนอกรีตนอกรอย
ทำให้นักปราชญ์ในยุคกลางของยุโรปต้องหลบซ่อนแอบทำการศึกษาค้นคว้า
อีกทั้งต้องซุกซ่อนผลงานการศึกษาวิจัยมิให้ผู้ใดล่วงรู้
ยุคมืดได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อศาสนจักรได้รับการท้าทายจากปรัชญาเมธีทางการเมืองที่พยายามผลักดันอำนาจของสันตปาปาที่กรุงโรมให้พ้นจากอำนาจทางการเมือง
ในช่วงนี้เองที่มีการยอมให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำการค้นคว้าและนำผลงานการค้นคว้าเสนอต่อสาธารณชนได้อย่างเปิดเผย
โดยจะเห็นได้ว่า
นับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
16 เป็นต้นมา
นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงได้ผลิตงานออกมามากมาย
อาทิ เช่น งานของ Nicolius Copernicus,
William Harvey, Vesalius, Giordano Bruno
และในศตวรรษต่อมา
นักปราชญ์ชื่อเกลิเลโอก็ได้ให้ความสนใจและเสนอแนวความคิดทางด้านพันธุกรรม
ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นทรรศนะที่มีอิทธิพลต่อนักคิดชาวตะวันตกรุ่นหลังมาก
ในคริสต์ศักราชที่
17
การแสวงหาความรู้ของนักวิชาการมีปรากฏมากมายและจำนวนหลายสาขา
ทั้งที่เป็นนักชีววิทยา
นักกายวิภาคศาสตร์
นักจิตวิทยา
นักพฤกษศาสตร์
นักสัตวศาสตร์
และนักธรณีวิทยา
ซึ่งต่างนำผลการค้นคว้าทดลองมาเสนอต่อสาธารณชน
รวมทั้งมีการรวมกลุ่มทำการถกเถียงเกี่ยวกับแนวความคิดทฤษฎีการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
ทำให้เกิดแนวความคิดใหม่ขึ้นและท้าทายกับทรรศนะของนักวิชาการรุ่นก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อที่ย้ำถึงการธำรงคงอยู่กับที่ของสรรพสิ่ง
(static perspective)
หรือการมองโลกในแง่สถิตที่ไม่มีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงใด
ๆ ของสิ่งที่มีชีวิต
อย่างไรก็ตาม
การมองโลกในแง่สถิตของสรรพสิ่งก็มิได้ถูกทำลายจนหมดสิ้นไป
ยังคงมีผู้ให้ความเชื่อถือแนวความคิดนี้อยู่เป็นอันมาก
ซึ่งในคริสต์ศวรรษที่ 18
นี้เองที่มีการนำมาใช้ในการจำแนกพืชและสัตว์
และทำให้เกิดเป็นความรู้ใหม่ก้าวหน้าต่อไปอีกขั้นหนึ่ง
ตัวอย่างสำคัญที่สุดในการจัดจำแนกพืชและสัตว์ตามทรรศนะในแง่สถิตของสรรพสิ่ง
ก็คือ หนังสือชื่อ
Systema Naturae
|