3.โบรนิสลอว์
มาลินอฟสกี้
(Bronislaw Malinowski)
เป็นชาวโปแลนด์
แต่ได้รับการศึกษาวิชามานุษยวิทยาที่ประเทศอังกฤษ
จากนั้นเขาเดินทางออกไปศึกษาด้วยการไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับชาวเกาะโทรเบรียน
ในหมู่เกาะทะเลใต้
ระหว่างปี คศ.1915-1918
เพื่อศึกษาวัฒนธรรมของสังคมแห่งนั้น
แม้ว่าวิธีการศึกษาของเขาจะคล้ายคลึงกับของโบแอสก็ตาม
แต่เป้าหมายของการวิจัยของเขาแตกต่างจากของโบแอส
กล่าวคือ
แทนที่จะสืบสาวราวเรื่องของการพัฒนาวัฒนธรรม
แต่เขากลับค้นพบว่า
วัฒนธรรมทุกประเภทของชาวเกาะต่างทำหน้าที่ในการตอบสนองความต้องการของสมาชิกของสังคมนั้น
ๆ
ทำให้เขาได้สร้างทฤษฎีหน้าที่ประโยชน์นิยมขึ้น
เพื่ออธิบายว่า
วัฒนธรรมของสังคมนั้นจะได้รับการสร้างขึ้นอย่างมีระบบและเป็นเหตุเป็นผลเพื่อทำหน้าที่ในการตอบสนองความต้องการของสมาชิกในสังคม
ทั้งที่เป็นความต้องการทางชีวภาพและความต้องการทางสังคม
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็เพื่อสามารถรักษาเสถียรภาพ
ดุลยภาพ
และสร้างความผูกพันภายในสังคมอย่างดีที่สุด
4.
อัลเฟรด เรดคลิฟ - บราวน์
(Alfred R. Radcliffe - Brown)
เรดคลิฟ - บราวน์เกิดและได้รับการศึกษาในประเทศอังกฤษ
จากนั้น
ได้ออกไปทำการศึกษาวิจัยชาวเกาะอันดามันระหว่างปี
ค.ศ. 1906 - 1908 และในช่วงปี ค.ศ. 1910 -
1912
เขาไปทำวิจัยชาวพื้นเมืองทวีปออสเตรเลีย
หลังจากนั้น เรดคลิฟ -
บราวน์ทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนวิชามานุษยวิทยาตามมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก
เรดคลิฟ - บราวน์เรียกตัวเขาเองว่าเป็นนักทฤษฎีหน้าที่ประโยชน์นิยม
ดังเช่นมาลินอฟสกี้
แต่ความสนใจของเขายังได้เน้นถึงความสำคัญของ
"โครงสร้างทางสังคม"
ควบคู่ไปด้วย
โดยเขาอธิบายว่า
โครงสร้างทางสังคมก็คือสายใยแห่งความสัมพันธ์ของคนในสังคมซึ่งแยกการกระทำต่อกันทางสังคมออกเป็นหมวดหมู่ตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกัน
ดังเช่น
กิจกรรมในหมวดเศรษฐกิจ
การเมือง ครอบครัว ศาสนา
ครอบครัว และสันทนาการ
ความสัมพันธ์ในกลุ่มกิจกรรมแต่ละประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นสถาบันทางสังคม
ซึ่งสถาบันเหล่านี้จะมีความเกี่ยวข้องกันและกัน
อันหมายถึงการประกอบกันขึ้นเป็นโครงสร้างสังคม
องค์ประกอบในโครงสร้างของสังคมนี้เองที่เป็นวัฒนธรรมที่จะทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของสมาชิกสังคมนั้น
ๆ
ดังนั้น ชื่อเสียงของเรดคลิฟ
- บราวน์จึงได้รับการยอมรับในนามของผู้ก่อตั้งทฤษฎีโครงสร้าง
- หน้าที่ประโยชน์นิยม (Structural
- Functionalism)
|