บทที่ 13   ความเชื่อ ศาสนาและการควบคุมทางสังคม >> หน้า 22

 

ศาสนากับการอยู่ร่วมกันในสังคม

                ในสังคมที่ปราศจากกฎหมาย ศาสนาจะทำหน้าที่กำหนดวิถีการดำเนินชีวิตที่ทำให้คนประพฤติปฏิบัติตามเพื่อให้อยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความเป็นสุข ศาสนาได้กำหนดข้อห้ามในการประพฤติชั่ว ให้หลีกเลี่ยงอบายมุข และให้ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ต่อมาเมื่อมีการตรากฎหมายขึ้น ข้อกฎหมายก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของลัทธิความเชื่อและประเพณีต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสังคมนั้น ๆ เช่นกัน

                ในการรวมกลุ่มของคน นอกเหนือจากการใช้ความสัมพันธ์ด้านอื่นแล้ว การรวมกลุ่มทางด้านศาสนาจะเป็นการรวมแบบสมัครใจ หากเราจำเป็นต้องเข้ารวมกลุ่มด้วยการบังคับ (จำยอม) ก็ไม่อาจอยู่ในสังคมนั้นได้อย่างมีความสุข ดังนั้น ศาสนาจึงทำหน้าที่สำคัญที่ทำให้คนเป็นสมาชิกของสังคมด้วยความเต็มใจและสร้างความสุขใจ

                ศาสนายังได้กำหนดค่านิยมแก่คนในสังคม และให้แนวทางในการทำหรือไม่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต เช่น เกิดมาเป็นชายชาติหนึ่งต้องบวชเรียนสักครั้ง หรือให้คนเกิดความตั้งใจในการประกอบธุรกิจการงานให้บรรลุผลสำเร็จ

                ในขณะเดียวกัน ศาสนาเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญที่อบรมสั่งสอนให้แก่คนรุ่นหลังทั้งทางตรงและทางอ้อม คนบางคนนับถือศาสนาโดยผ่านมาทางบรรพบุรุษทั้ง ๆ ที่อาจไม่มีความเชื่อในคำสอนหรืออภินิหารในศาสนาที่ตนสังกัดอยู่เลย นักมานุษยวิทยามักกล่าวว่าลักษณะเช่นนี้เป็นการรับเอาศาสนาโดยทางจิตใต้สำนึก