ขวัญเหล่านี้ชอบออกไปจากร่างกายคนเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย
ได้รับภัยอันตราย
เลือดตกยางออกหรือตกอกตกใจ
ขวัญจะออกจากร่างไป
ขวัญนี้ไม่มีใครทราบว่ามีลักษณะอย่างไร
ท่านเสฐียรโกเศศกล่าวไว้ในหนังสือประเพณีเบ็ดเตล็ดว่า
ขวัญนี้คงมีรูปร่างแบน
จึงมีคำพูดว่าขวัญบิน
ถ้าเป็นคนยังมีชีวิตอยู่
สิ่งนี้เราเรียกว่าขวัญ
แต่ถ้าคนตายไปแล้วร่างกายเน่าเปื่อยสูญสิ้นไป
แต่สิ่งที่เรียกว่าขวัญนี้หาได้ตายไปด้วยไม่
แต่กลายสภาพเป็นวิญญาณ
เย้าเรียกว่า ผี หรือ
เมี้ยน
วิญญาณหรือผีเมื่อไม่มีร่างกายอาศัยก็จะล่องลอยไปโดยที่เราไม่สามารถมองเห็นรูปร่าง
ไม่มีใครเคยเห็นหรืออธิบายได้
ท่านเสฐียรโกเศศกล่าวว่าวิญญาณนี้มีรูปร่างเหมือนอย่างคนแต่แบบบางโปร่งมากเห็นได้แต่เงา
ๆ เป็นคล้ายลม
ในภาษาสันสกฤตเรียกว่า
อาตมัน
เดิมแปลว่าลมหายใจหรือความรู้สึก
เมื่อวิญญาณยังไม่มีโอกาสมาเกิดเป็นรูปร่างเป็นคนอีกก็เป็นผีไปก่อน
ไม่มีรูปร่างแต่จะมีรูปร่างต่าง
ๆ
กันไปตามแต่จะบันดาลให้เราเห็น
เมื่อขวัญออกจากร่างไป
ผีร้ายทั้งหลายชอบเข้ามาสิงสู่อยู่แทนที่
และทำให้เกิดเจ็บป่วย
การรักษาจำเป็นต้องมีหมอผีมาทำพิธีอัญเชิญผีใหญ่และผีบรรพบุรุษมาขับไล่ผีร้ายให้ออกจากร่างกายและตามหาขวัญกลับมา
ถ้าหมอผีแสดงให้เห็นว่าขวัญกลับมาแล้ว
ก็เป็นอันเบาใจได้ว่า
คนป่วยนั้นมีทางรักษาเยียวยาให้หายได้
แต่ถ้าขวัญไม่กลับมาก็เป็นอันว่าหมดหวัง
ต่อจากหมอผีทำพิธีเชิญขวัญหรือที่เย้าเรียกว่าดาวว่วน
(ฮ้องขวัญ) กลับมาแล้ว
ก็เป็นหน้าที่ของการเยียวยา
โดยอาจใช้ยากลางบ้านหรือใช้ยาแผนใหม่ก็ได้
การทำพิธีของหมอผีจึงยังเป็นเสมือนสิ่งจำเป็นอยู่สำหรับสังคมเย้า
ผู้ไม่รู้อาจมองการทำพิธีของหมอผีนี้ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
แต่เราควรระลึกไว้อีกอย่างหนึ่งว่าหมอผีหาได้ทำพิธีเพื่อการรักษาเยียวยาคนป่วยไม่
แต่เป็นการทำพิธีเพื่อเชิญขวัญกลับมาต่างหาก
พิธีนี้นับเป็นพิธีใหญ่พิธีหนึ่ง
เนื่องจากเย้ามักจะประกอบพิธีในยามเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นส่วนใหญ่
เพื่อขอให้ผีช่วยป้องกันรักษาการเจ็บป่วยนั้น
ๆ
เป็นการร้องขอให้ตนเองปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและประสบแต่โชคดี
|