5.รัฐหรือประเทศ
การปกครองแบบรัฐ คือ
มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยคนทั้งประเทศ
ทำให้อำนาจของรัฐกับความสัมพันธ์ทางด้านอื่น
ๆ เช่น เครือญาติ
อำนาจโดยเทวโองการลดน้อยลง
การปกครองแบบนี้เป็นที่นิยมกันในสมัยปัจจุบัน
โดยจะมีสถาบันทางการเมืองเป็นอิสระและมีกลไกซับซ้อนดังที่เราเห็นในทุกวันนี้
ลักษณะเด่นของโครงสร้างการปกครองแบบรัฐมีแยกย่อยดังต่อไปนี้
(1)
เป็นการปกครองที่อำนาจกระจายมาจากส่วนกลางโดยผู้แทนที่ได้รับเลือก
รัฐบาลที่มีโครงสร้างสลับซับซ้อนจำเป็นต้องมีตัวแทนเป็นผู้ใช้อำนาจเพื่อทำหน้าที่ในการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาต่าง
ๆ ได้ในสังคมแทนประชาชน
ในสังคมปัจจุบัน
ไม่มีใครที่จะมีอำนาจสิทธิ์ขาดและแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง
ดังนั้นการแบ่งแยกอำนาจเป็นหมวด
ๆ เช่น นิติบัญญัติ บริหาร
และตุลาการ
จะสามารถรับผิดชอบโดยตรงแทนประชาชนและใช้อำนาจดังกล่าวเพื่อประชาชนทุกคน
(2)
ความชำนัญพิเศษทางการเมือง
สังคมที่เจริญแล้ว
ผู้ประกอบอาชีพแต่ละสาขาต้องมีความรู้ความชำนาญในวิชาแต่ละสาขานั้น
รวมทั้งต้องสนใจและทำงานในด้านนั้นอย่างเต็มเวลา
ในด้านการเมืองและการปกครองก็เป็นเช่นเดียวกัน
นักการเมือง
และนักปกครองก็ต้องใช้ความสามารถพิเศษที่ปกครองคนทั้งประเทศได้
และทำงานร่วมกับคนอื่นเป็นกลุ่ม
รวมทั้งรักษากฎเกณฑ์ทางสังคมไว้
คนเหล่านี้ ได้แก่
รัฐมนตรี ที่ปรึกษา
นักการทูต นักปกครอง
ผู้แทนราษฎร ฯลฯ
(3)
การเก็บภาษีอากร
เนื่องจากสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น
รัฐจำเป็นต้องหาเงินมาใช้จ่ายให้กับผู้ชำนัญการในสาขาต่าง
ๆ ดังกล่าวแล้ว
การที่จะได้เงินมาก็ต้องเรียกเก็บภาษีอากรจากประชาชนทั่วประเทศ
กฎเกณฑ์ของการเก็บภาษีอากรจะต่างกันไปตามสภาพของแต่ละสังคม
(4)
ขอบเขตขัณฑสีมา คำว่ารัฐ
หมายรวมถึงอาณาบริเวณด้วย
การปกครองปัจจุบันย่อมต้องแบ่งเขตของการปกครองออกเป็นส่วนย่อย
เป็นจังหวัด อำเภอ ตำบล
และหมู่บ้าน เป็นต้น
|