ชาวเกาะนิวกินีพวกหนึ่งมีพิธีแต่งงาน
คือ ในวันไปรับตัวเจ้าสาว
เจ้าบ่าวจะพาพวกไปด้วยกันหลายคน
พอไปถึงบ้านเจ้าสาว
ก็ทำเป็นทีว่าไปปล้นส่งเสียงเอ็ดอึง
ตีอะไรต่ออะไรให้อึกทึกกึกก้อง
ตอนนี้เจ้าสาวจะต้องวิ่งหนีออกจากเรือนให้เร็วที่สุด
พวกเจ้าบ่าวต้องคอยระวังไว้ให้ดี
พอเห็นเจ้าสาววิ่งหนีออกจากเรือนก็ไล่กวดจับตัวทันที
ถ้าจับได้เจ้าสาวจะต้องดิ้นให้เต็มที่
ใช้วิธีข่วนกัดสะบัดสะบิ้งให้มากที่สุด
ฝ่ายพวกเจ้าสาวทำเป็นเข้ามาช่วยเกิดตีกันชุลมุนวุ่นวาย
ระหว่างนี้มารดาเจ้าสาวคว้าได้ไม้พลองหรือไม้อะไรก็ได้แร่เข้ามาตีเปะปะไม่เลือกว่าใคร
ปากก็ตะโกนโพนทนาด่าพวกเจ้าบ่าวที่บังอาจมาฉุดคร่าลูกสาวของตนไป
สักครู่หนึ่งทำเป็นลมจับล้มแผ่ลงแสดงว่าเสียใจเหลือเกินที่ต้องเสียลูกสาวไป
พวกผู้หญิงคนอื่นในบ้านก็พากันร้องไห้เอ็ดอึง
ชาวอินเดียนแดงพวกหนึ่ง
มีพิธีให้เจ้าสาวนั่งอยู่ในกลางวงซึ่งเขียนไว้
แล้วให้มีหญิงเพื่อนเจ้าสาวหลายคนนั่งล้อม
ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องกราดเข้าไปฉุดเจ้าสาวที่กลางวงเอาดื้อ
ๆ
ฉุดได้แล้วเอาขึ้นบ่าแบกหนีออกไปให้เร็ว
เพื่อไปเข้าวงพิธีของเจ้าบ่าวซึ่งเขียนไว้อีกวงหนึ่ง
ถ้า
สามารถแบกเจ้าสาวเข้าไปในวงของตนได้
ก็เป็นอันว่าใครจะเข้ามาแย่งไม่ได้
หญิงนั้นก็ตกเป็นสิทธิของตน
ในตอนที่เจ้าบ่าวกำลังแบกเจ้าสาวพยายามจะพาเข้าวงของตน
บิดามารดาของเจ้าสาวจะทำเป็นเอาไม้ไล่ตีเจ้าบ่าวพอเป็นพิธี
2.
เขยขวัญสะใภ้แก้ว
ในสังคมเกษตรกรรม
มีความต้องการทางด้านแรงงานมาก
ฝ่ายชายที่ไม่มีกำลังทุนทรัพย์เป็นเงินทองพอที่จะให้เป็นสินสอดได้
ก็ยอมเอาแรงของตนเข้าแทนเงิน
รับใช้การงานให้แก่บิดามารดาของฝ่ายหญิงโดยมีกำหนดเวลาแล้วแต่จะตกลงกัน
ประเทศไทยแถวอีสาน
ฝ่ายชายจะต้องทำงานให้แก่ครอบครัวของฝ่ายหญิงนานเป็นเวลา
3 เดือนถึง 1 ปี
ก่อนที่พิธีสมรสจะเริ่มขึ้น
เมื่ออยู่รับใช้งานในบ้านของฝ่ายหญิงก็มีโอกาสคุ้นเคยกับผู้หญิง
เท่ากับเป็นการทดลองดูว่ามีความรักใคร่กันจริงหรือไม่
ทางปักษ์ใต้เมื่อทำพิธีหมั้นกันแล้ว
ฝ่ายชายจะต้องไปรับใช้ผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงจนกว่าจะถึงกำหนดวันแต่งงาน
ถ้าบ้านใกล้กัน
เช้าไปเย็นกลับ
ไกลกันก็ต้องไปอยู่ประจำ
ฝ่ายเจ้าสาวเป็นผู้เลี้ยงดู
ส่วนประเพณีของชาวเขมรเจ้าบ่าวจะต้องไปอยู่รับใช้ที่บ้านพ่อของฝ่ายหญิง
เรียกว่า "เชวอบำเรอ"
แปลว่า "รับใช้การงาน"
|