บทที่ 9 ระบบเศรษฐกิจเทคโนโลยีและสภาพนิเวศ >> หน้า 7


                 คำว่า "ดี" หรือ "เลว" หรือ "ต่ำ" นั้นอาจตัดสินกันได้ยาก คนในสังคมดั้งเดิมอาจมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นแต่มีความสัมพันธ์ต่อกันดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันมากกว่า หรือหากจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ คนเหล่านั้นอาจมีและรู้คุณค่าของชีวิตได้ดีกว่าคนในสังคมเมืองใหญ่ที่มีการใช้เทคโนโลยี่ในระดับสูงแต่ไร้ที่พึ่งทางใจก็ได้ ดังนั้น หน้าที่ของนักมานุษยวิทยาก็คือการอธิบายปรากฏการณ์ของแต่ละสังคมมากกว่าที่จะแสดงความคิดเห็นของตนต่อสังคมนั้น ๆ ออกมา

                 จากการศึกษาสังคมและวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่มีอยู่ในโลกเป็นระยะเวลานาน และเขียนรายงานการวิจัยเผยแพร่เป็นจำนวนมาก ทำให้นักมานุษยวิทยาสรุปว่า ในบางกรณีมนุษย์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อม ส่วนบางกรณีอิทธิพลของธรรมชาติมีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนอยู่อย่างจำกัด และไม่จำเป็นเสมอไปว่าสิ่งแวดล้อมเท่านั้นจะเป็นตัวกำหนดแนวทางความประพฤติของคนเสมอไป ศาสตราจารย์เฮอร์สโกวิทส์ ได้จำแนกว่า

                 (1) ในสังคมดั้งเดิมและสังคมที่มีการใช้เทคโนโลยี่ในระดับต่ำนั้น สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติมีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิตอยู่ของคนมากกว่าความเชื่อ ศาสนา การจัดระเบียบทางสังคมและศิลปะต่าง ๆ

                       (2) ในสังคมที่มีการใช้เทคโนโลยี่ในระดับสูง อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมมีบทบาทน้อยลง แต่วัฒนธรรม ศาสนา ความคิดความเชื่อกลับมีบทบาทต่อการแสดงออกทางพฤติกรรมของมนุษย์มากกว่า(5)

                 ข. ความพยายามของคนที่จะเอาชนะธรรมชาติและพยายามปรับปรุงเครื่องมือเพื่อใช้ในการผลิตนั้นมีขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จนกระทั่งในปัจจุบัน มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ภายใต้การควบคุมของธรรมชาติน้อยที่สุด ดังเช่น สังคมเกษตรกรรม และสังคมอุตสาหกรรม ต่อไปนี้จะขอยกตัวอย่างสังคมเกษตรกรรม ซึ่งจะทำให้เห็นความแตกต่างจากตัวอย่างของสังคมดั้งเดิมที่ได้กล่าวไปแล้วเพื่อเปรียบเทียบอิทธิพลของธรรมชาติกับการดำรงชีวิต

                 .....หมู่บ้านเกาะเค็ดและหมู่บ้านสระมะเขือ จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่ของหมู่บ้านทั้งสองแห่งลาดเอียงจากทิศใต้สู่ทิศเหนือ ทิศใต้ของหมู่บ้านนั้นเป็นที่ดอน ชาวบ้านมักจะใช้เป็นที่ปลูกพืชไร่ เช่น ถั่วลิสง มันสำปะหลัง มันแกวและผักสวนครัว รอบ ๆ หมู่บ้านทั้งสองแห่งเป็นบริเวณนาข้าวซึ่งชาวบ้านปลูกข้าวโดยวิธี "นาดำ" ในฤดูฝน ส่วนฤดูแล้งจะปลูกพืชผักสวนครัวเล็กน้อย ทางทิศเหนือของหมู่บ้านเป็นที่ลุ่ม น้ำจะท่วมตลอดฤดูฝน ชาวบ้านจึงนิยมปลูกข้าวเป็น "นาหว่าน" โดยใช้พันธุ์ข้าวหนีน้ำ สภาพของดินของหมู่บ้านในจังหวัดนี้ทางทิศใต้เป็นดินร่วนปนทรายและดินลูกรัง ส่วนรอบ ๆ บริเวณหมู่บ้านจะเป็นดินร่วนปนทรายและดินเหนียว ทั้งสองหมู่บ้านไม่ได้รับน้ำชลประทานเลย อาศัยน้ำฝนในการปลูกข้าวและน้ำจากบ่อน้ำในการปลูกพืชฤดูแล้ง (ระดับน้ำในฤดูนี้ประมาณ 2 - 3 เมตรต่ำจากผิวดิน)