บทที่9  ระบบเศรษฐกิจเทคโนโลยีและสภาพนิเวศ  >> หน้า 5

                 พวกเอสกิโมเผ่าชิเปวายานและคาริบู (Chipewayan and Caribou Eskimo) ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบขั้วโลกเหนือนั้น พื้นที่ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้เลย การหาพืชผักผลไม้ก็อาจทำได้เฉพาะฤดูร้อนซึ่งมีเพียงไม่กี่เดือนในรอบหนึ่งปี ดังนั้น จึงต้องเก็บสะสมอาหารโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อควายป่า หมี นก กวางมูชและอีเห็น ไว้รับประทานทีละเล็กละน้อยในยามที่ขาดแคลนจริง ๆ ชาวเอสกิโมพวกนี้มีเทคนิคในการล่าสัตว์โดยพยายามจะไม่ทำลายสัตว์ดังกล่าวทั้งฝูง หากเขาฆ่าสัตว์ทุกตัวก็เท่ากับเป็นการทำลายอาหารของเผ่าทั้งหมด

                 ชาวอินเดียนแดงที่อาศัยอยู่แถบตอนกลางและตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียนั้น ในระยะที่ยังไม่ได้มีการติดต่อกับพวกผิวขาว พวกเขาแสวงหาอาหารเพื่อการยังชีพโดยการนำเอาสิ่งที่มีอยู่ในสังคมมาใช้รับประทาน ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพืช หัวเผือก หัวมัน ลูกแบรี่ และปล

                 ตัวอย่างที่ยกมานี้แสดงให้เห็นว่าคนและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติมีความเกี่ยวข้องกันมากในสังคมที่มีการใช้เทคโนโลยี่ระดับต่ำ คนต้องพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ ดังนั้น ทำให้นักมานุษยวิทยาที่ศึกษาวิจัยสามารถเข้าใจลักษณะของการสร้างวัฒนธรรมเชิงเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานของมนุษย์และสามารถนำมาเปรียบเทียบกับสังคมปัจจุบันที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งจะเป็นหนทางที่ทำให้เราสามารถเข้าใจโครงสร้างของวัฒนธรรมประเภทนี้ได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านจะต้องไม่รีบสรุปลงไปว่าสังคมดั้งเดิมทุกสังคมมีลักษณะเหมือนกันที่คนในสังคมมีชีวิตอยู่แบบยากจนข้นแค้นและลำบากในการหาอาหารเพื่อยังชีพ สำหรับสังคมที่ยกมากล่าวนี้เป็นเพียงตัวอย่างกรณีที่มีลักษณะที่พิเศษเพื่อเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องพึ่งพาอาศัยสภาวะแวดล้อมและธรรมชาติที่มีอิทธิพลต่อวิถีทางการดำเนินชีวิต ส่วนสังคมดั้งเดิมในแถบบริเวณอื่นนั้น การประกอบกิจกรรมทำมาหาเลี้ยงชีพอาจไม่ลำบากและทรัพยากรทางธรรมชาติก็อาจมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากคนเหล่านั้นยังไม่ใช้เทคโนโลยี่ในการผลิตระดับสูง คนจึงต้องดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติมาก

                 ตามปกติแล้ว นักมานุษยวิทยาจะไม่ลงความเห็นกันว่าสังคมที่มีการใช้เทคโนโลยี่ในระดับสูงนั้นจะต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ในสังคม "ที่ดีกว่า" คนที่อยู่ในสังคมดั้งเดิม แม้ว่าจะมีสหสัมพันธ์ตรงระหว่างระดับของการใช้เทคโนโลยี่กับระดับของความเจริญหรืออารยธรรมก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะการจัดระดับของอารยธรรมนั้นเป็นการใช้ค่านิยมและอารมณ์เป็นพื้นฐาน