การลดจำนวนโครโมโซมลงให้เหลือเพียง
23
ตัวนี้เป็นกระบวนการขั้นพื้นฐานในการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ทั้งนี้เพราะในการปฏิสนธินั้น
เซลล์ของฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่จะต้องลดจำนวนโครโมโซมให้เหลือครึ่งหนึ่ง
และเมื่อมีการปฏิสนธิแล้ว
เซลล์ใหม่จะมีโครโมโซมจากไข่ของฝ่ายแม่ครึ่งหนึ่งและจากสเปอร์มของฝ่ายพ่ออีกครึ่งหนึ่ง
รวมกันเป็น 46 ตัวดังเดิม
จะเห็นได้ว่า
หากไม่มีกระบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสแล้ว
เมื่อมีการปฏิสนธิ
จะทำให้เซลล์ของลูกมีโครโมโซมรวมกันถึง
92 ตัว(1)
ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อเกิดการปฏิสนธิขึ้นภายใต้สภาวะปกติแล้ว
และโครโมโซมของฝ่ายพ่อจะผสมกับของฝ่ายแม่
จะเกิดเป็นเซลล์ใหม่ที่มีโครโมโซมจำนวน
23 คู่ หรือ 46 ตัว
เราเรียกเซลล์ใหม่ที่เกิดจากการปฏิสนธินี้ว่า
ไซโกท (zygote)
เซลล์ใหม่นี้จะเป็นที่รวมคุณลักษณะทางพันธุกรรมจากฝ่ายพ่อครึ่งหนึ่งบวกกับฝ่ายแม่อีกครึ่งหนึ่ง
จากนั้น เซลล์ไซโกทก็จะแบ่งตัวแบบไมโตซิสเพื่อทวีจำนวนเซลล์ให้เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นทารกต่อไป
แต่ถ้าการปฏิสนธิเกิดขึ้นภายใต้สภาวะที่ผิดปกติ
อาทิเช่น ในตอนลดจำนวนโครโม
โซมให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง และมีจำนวนขาดหรือเกิน
23 ตัว ผลของการปฏิสนธิที่เกิดขึ้นก็คือจะก่อให้เกิดลักษณะแปลกใหม่หรือความผิดปกติขึ้นกับเซลล์ใหม่
และจะมีผลโดยตรงต่อทารกคนนั้น(2)
ยีนกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ดังที่ได้กล่าวแล้วว่า
โครโมโซมจำนวน 23
คู่ที่พ่อและแม่ส่งผ่านเพื่อนำไปปฏิสนธิเป็นไซโกทนั้น ได้นำคุณลักษณะหรือระหัสถ่ายทอดทางชีวภาพของพ่อและแม่ไปด้วย
นักวิทยาศาสตร์เรียกตัวนำคุณลักษณะนี้ว่า
ยีน (gene) หรือ "ส่วนหนึ่งของโมเลกุลดีเอ็นเอ"
ที่ประกอบกันขึ้นเป็นโครโมโซมนั่นเอง(3)
โมเลกุลดีเอ็นเอ
มีชื่อเต็มว่า Deoxyribonucleic Acid (DNA)
เป็นสารจำพวกโปรตีนพิเศษที่ถือกันว่าเป็นตัวนำคุณลักษณะทางชีวภาพของพ่อและแม่ไปสู่ลูกหลาน