เบี้ยทั้ง 8
ชนิดมีค่าเท่ากันหมด ในปี
พ.ศ.1078 เบี้ยมีค่าในอัตรา 200
เบี้ยต่อ 1 เฟื้อง
และตั้งแต่สร้างกรุงศรีอยุธยามาจนเสียกรุง
ระหว่างปี พ.ศ. 1893 - 2310
ค่าของเบี้ยตามกฎหมายเป็น
800 เบี้ยต่อ 1 เฟื้อง
ต่อมาเราเลิกใช้เบี้ยเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนแทนเงินตราเมื่อปี
พ.ศ. 2345....
ส่วนนักมานุษยวิทยาชื่อ
L. Pospisil
ได้ไปศึกษาภาวะเศรษฐกิจของชาวปาปวนคาเปาเกอร์
(Kupauker Papuan) ในเกาะนิวกีนีและยืนยันว่า
สังคมแห่งนี้มีการใช้เงินตราสำหรับแทนค่าสิ่งของต่าง
ๆ จริง
เขาได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งว่า
....เศรษฐกิจของพวกคาเปาเกอร์นั้นมีลักษณะแห่งการใช้เงินตราจริง
ๆ
เนื่องจากพวกเขาใช้เปลือกหอยคาวรี
(cowrie) และสร้อยคอที่ชื่อว่า
dedege และ pagadan
เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน
สิ่งของดังกล่าวนี้ได้ใช้แทนค่าของสิ่งของทั่วไปและใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายของทุกชนิดที่อยู่บนเกาะนี้
ชาวคาเปาเกอร์เน้นความสำคัญของความมั่งคั่ง
เงินตราและการค้าขาย
ฉะนั้นจึงถือได้ว่าพวกนี้มีลักษณะเป็นปัจเจกชนนิยมดังเช่นคนในสังคมเมือง....
จะเห็นได้ว่า
สิ่งของหรือวัตถุที่ใช้แทนเงินตรานั้น
บางอย่างอาจมีค่ามาก เช่น
เงิน หรือทองคำ
ส่วนสิ่งของบางอย่างมีค่าน้อย
เช่น ลูกหิน หรือ กระดาษ
แต่เมื่อนำเอาสิ่งของหรือวัตถุนั้นมาใช้เป็นเงินตราแล้ว
คุณค่าทางสัญลักษณ์ของวัตถุสิ่งนั้นจะเป็นไปตามราคาที่คนในสังคมแต่ละแห่งนั้นกำหนดขึ้น
เช่น 1 บาทเท่ากับ 100 สตางค์
และ 1 ดอลล่าห์เท่ากับ 100
เซนต์ หรือ 200 เบี้ยเท่ากับ 1
เฟื้อง เป็นต้น
3.เงินตราที่ใช้ในสังคมดั้งเดิมกับสังคมปัจจุบัน
ศาสตราจารย์แมรี่
ดักลาส กล่าวว่า
ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเปรียบเทียบ
"การใช้"
เงินตราระหว่างคนในสังคมดั้งเดิมกับสังคมปัจจุบัน
เพราะในสังคมดั้งเดิมนั้นคนใช้เงินตราเพื่อเป็นเพียงสื่อกลางในการใช้จ่ายเชิงพิธีกรรมเท่านั้น
(ยกเว้นบางสังคม เช่น พวกปาปวนคาเปาเกอร์
ที่ผู้วิจัยยืนยันว่าหน้าที่ประโยชน์ของเงินตราเป็นอย่างอื่น)
ทั้งนี้ลักษณะของสังคมดังกล่าวก่อให้เกิดสภาพของระบบเศรษฐกิจที่ใช้การแลกเปลี่ยนอันกอร์ปไปด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นพื้นฐานหลัก
และสังคมก็มีแนวโน้มที่จะแยกตัวเองเป็นอิสระและอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ส่วนสังคมปัจจุบันนั้น
การใช้เงินตราไม่ได้เป็นเรื่องของการแบ่งปันสินทรัพย์และสิ่งของภายในสังคมเท่านั้น
แต่รวมไปถึงการใช้เงินเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการระหว่างสังคมและระหว่างประเทศด้วยภายใต้ข้อกำหนดตามกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องการกำหนดมาตรฐานของค่าของเงินและการควบคุมเงินตราประการอื่น
ๆ อีกมากมาย
|