บทที่ 8 มานุษยวิทยาสังคมและวัฒนธรรม  >> หน้า 16

 
                จะเห็นได้ว่าอุดมการณ์ของพรรคและนโยบายของการหาลูกพรรคโดยใช้ความสัมพันธ์เป็นส่วนตัวมีอิทธิพลต่อผู้ลงคะแนนเสียง ผู้วิจัยมิได้สนใจกับการรณรงค์หาเสียงตามสถานที่ ชุมชนต่าง ๆ และวิธีการชักจูงต่อหน้ามหาชนที่มาฟัง แต่สนใจในรูปของการติดต่อและความสัมพันธ์เชิงส่วนตัว ตลอดจนการรับเข้าเป็นสมาชิกของพรรคโดยวิธีการนี้  โดยบรรยายให้เกิดภาพพจน์ถึงความสัมพันธ์ซึ่งมีอยู่ต่อกันเป็นร่างแห และเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในกรณีที่มีกิจกรรมการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อจะแสดงให้เห็นภาพดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง จึงขอบรรยายถึงสถานการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งของผู้สมัครคนหนึ่งและลักษณะของการรณรงค์หาเสียงของเขา

                ในแขวงหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเขตสำคัญเขตหนึ่งที่ผู้สมัครกำลังแข่งขันกันอยู่นั้น ในการเลือกตั้งครั้งก่อนผู้สมัครของพรรคคองเกรสได้รับชัยชนะในการเลือก คือ ในจำนวน 852 เสียง พรรคนี้ได้รับเลือก 510 เสียง หรือประมาณ 60 เปอร์เซนต์ และเอาชนะผู้สมัครพรรคอิสระ  ซึ่งได้รับเลือก 252 เสียง ส่วนพรรคประชาสังคมนิยมมีจำนวน 90 เสียง จะเห็นได้ว่าพรรค คองเกรส แม้จะได้รับชัยชนะแต่ก็ไม่ได้มีชัยชนะเด็ดขาด เพราะมีคนกล่าวกันว่าผู้สมัครของพรรคนี้ให้ความสนใจน้อยต่อการตั้งป้อมเพื่อกันพรรคอื่น

                ในปีของการเลือกตั้ง คศ. 1961 ผู้สมัครพรรคอิสระได้สมัครอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เขาเป็นข้ารัฐการเก่าชื่อ จาน ซางห์     ตัวจาน ซางห์เองมิได้เป็นคนที่เข้มแข็งในการหาเสียงแต่พรรคพวกของเขาได้กระทำการแทนเขาเป็นส่วนใหญ่ คู่ต่อสู้ของเขาคือผู้สมัครจากพรรคคองเกรส  ซึ่งเป็นชายเพิ่งปลดเกษียณอายุเมื่อเร็ว ๆ นี้ จากตำแหน่งชั้นสูงของรัฐบาลและเคยได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งงานที่สำคัญของอำเภอเดวาสนี้ด้วย แต่ผู้สมัครของพรรคคองเกรสคนนี้มิได้เป็นสมาชิกของพรรคนี้มาก่อน เพิ่งมาเป็นเมื่อเขาออกจากงาน   ฉะนั้น เขาจึงมิได้เป็น "คนวงใน" ของพรรค  อย่างไรก็ตามแรงสนับสนุนที่เขาได้จากลูกพรรคคนสำคัญมีมากกว่าที่จาน ซางห์ ได้รับจากพรรคพวกของเขา  อนึ่งจุดอ่อนของพรรคคองเกรสคือมิได้เสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีสิทธิออกเสียงในเขตของตน เพียงแต่หาเสียงที่โน่นที่นี่นิดหน่อย  ส่วนคนสมัครคนที่สามมาจากพรรคประชาสังคมนิยม มีนิวาสถานอยู่ในเขตนั้น แต่มีอิทธิพลทางการเมืองน้อยและได้รับการสนับสนุนน้อยมากจากลูกพรรคประชาสังคมนิยมด้วย     ฉะนั้น  ในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันระหว่างจาน ซางห์ และคนของพรรคคองเกรส